Page 218 - kpiebook67020
P. 218

217




           ที่ตื่นรู้และตระหนักถึงหน้าที่พลเมืองในสังคมประชาธิปไตย ที่จะต้องเข้าไปมีบทบาท

           ในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น

                  นับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน

           การเมืองภาคประชาชนและการเมืองภาคพลเมืองเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น
           ในสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่นั้นการก่อตัวของการเมืองภาคประชาชน

           มักเกิดจากการบังคับใช้อ�านาจที่ไม่เป็นธรรม เช่น กฎหมาย นโยบาย ที่เข้าไปมี
           ผลกระทบต่อประชาชน ท�าให้เกิดความไม่พอใจของประชาชน จนน�าไปสู่การประท้วง

           ของประชาชน และความต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอ�านาจรัฐให้มี
           ความเป็นธรรมมากขึ้น ซึ่งการเมืองภาคพลเมืองลักษณะนี้เป็นการเมืองภาคพลเมือง

           ที่ต้องการต่อสู้กับปัญหาเชิงโครงสร้าง ต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบเด่นชัด เช่น
           เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ที่นิสิตนักศึกษาลุกขึ้นต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการ

           เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดง ตลอดจน
           การต่อสู้ของม็อบเยาวชนเพื่อเรียกต้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเรียกร้องประชาธิปไตย

           เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในการเสริมสร้างการเมืองภาคพลเมืองควรมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้าง
           การเมืองภาคพลเมืองต้องการที่จะเข้าไปมีอิทธิพลต่ออ�านาจรัฐ เพื่อก�าหนดกฎหมาย

           เสนอและปรับแก้นโยบาย กล่าวคือ การส่งเสริมพลเมืองที่มีส�านึกทางการเมือง
           ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศ ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า

           การเมืองภาคพลเมืองที่น�าโดยพลเมือง (Citizen led Politics) ซึ่งสามารถท�าได้โดย
           การที่รัฐยกระดับการกระจายอ�านาจ นั่นคือ ไม่เพียงแต่กระจายอ�านาจไปสู่องค์กร

           ปกครองส่วนท้องถิ่นเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการกระจายอ�านาจที่สามารถลงไปถึง
           ชุมชนท้องถิ่น และคนในชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนในฐานะพลเมืองสามารถ

           มีอ�านาจในการตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตนเอง มีอ�านาจต่อรองกับภาคส่วนอื่น ๆ และ
           มีอ�านาจในการบริหารจัดการภายในชุมชนของตนเอง (ถวิลวดี บุรีกุลและคณะ, 2564)
   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223