Page 46 - kpiebook66023
P. 46

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                                (3) มาตรา 5(3) เงื่อนไขที่ก าหนดสัดส่วนของการแบ่งปันก าไรและเงินปันผล

                                “น าผลก าไรไม่น้อยกว่าร้อยละเจ็ดสิบไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ตาม (1) และแบ่งปันก าไร

                  ให้แก่ผู้เป็นเจ้าของกิจการหรือผู้ถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละสามสิบของผลก าไรทั้งหมด โดยให้ถือว่าการลงทุนใน
                  กิจการของตนเองซึ่งมีกระบวนการผลิตหรือการบริการที่มีลักษณะตาม (1) หรือการขยายกิจการเพื่อ
                  วัตถุประสงค์ตาม (1) ตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศก าหนดเป็นการน าผลก าไรไปใช้เพื่อสังคม”


                                เงื่อนไขเกี่ยวกับสัดส่วนของการแบ่งปันก าไรและเงินปันผลนั้น มาจากแนวคิดของ
                  กฎหมาย CIC ของสหราชอาณาจักรที่เกี่ยวกับการก าหนดเพดานการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่เรียกว่า
                  Dividend Cap ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักที่จะประสานสมดุลระหว่างการสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนเพื่อมา

                  ลงทุนกับ CIC และหลักการเรื่องการจัดการทรัพย์สินและก าไรของ CIC จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของ
                  ชุมชนเป็นส าคัญ การก าหนดเพดานดังกล่าวจะช่วยป้องกันการจ่ายเงินปันผลอย่างไม่เหมาะสมกับเงินลงทุน
                  และก าไรของ CIC  กฎหมายวิสาหกิจเพื่อสังคมของประเทศไทยได้มีการน าหลักการดังกล่าวมาปรับใช้
                                 78
                  โดยก าหนดเพดานการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 30 ของก าไรทั้งหมด ในขณะที่ของกฎหมาย CIC

                  ก าหนดเพดานไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 35

                                ประเด็นส าคัญในเรื่องนี้คือ การค านวณสัดส่วนว่าร้อยละเท่าใดจึงเหมาะสมกับบริบทของ
                  ประเทศไทย และสามารถดึงดูดให้นักลงทุนมาสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมมากขึ้น โดยก าไรส่วนที่เหลือจะต้อง
                  ใช้ส าหรับวัตถุประสงค์เพื่อสังคม และกฎหมายถือว่าการลงทุนในกิจการเดิมหรือการขยายกิจการของวิสาหกิจ
                  เพื่อสังคมเป็นการน าผลก าไรไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อสังคมตามที่กฎหมายก าหนดแล้ว เงื่อนไขของกฎหมาย

                  ดังกล่าวมาจากแนวคิดที่ส าคัญประการหนึ่งของวิสาหกิจเพื่อสังคม คือ การลงทุนกลับสู่สังคม (reinvestment
                                   79
                  in the community)  ดังนั้น เมื่อวิสาหกิจเพื่อสังคมมีวัตถุประสงค์เพื่อสังคมแล้ว การน าก าไรมาใช้ในการ
                  ด าเนินกิจการหรือการขยายกิจการ ย่อมหมายถึง การลงทุนกลับคืนสู่สังคมนั่นเอง

                                แนวคิดในเรื่องของการจ ากัดสัดส่วนการแบ่งปันก าไรนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรต้องมี
                  การศึกษาว่าอัตราส่วนเท่าใดจึงจะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย เพราะอัตราส่วน

                  35:65 ของสหราชอาณาจักรนั้น มีการศึกษาวิจัยและประชาพิจารณ์หลายครั้งก่อนที่จะสรุปออกมาเป็น
                  ข้อก าหนดในกฎหมาย นอกจากการก าหนดเรื่องของเงินปันผลแล้ว ยังมีการก าหนดเรื่องอัตราดอกเบี้ยด้วย
                  (performance-related interest cap) เช่น กรณีที่ CIC ออกหุ้นกู้ (debenture) จะไม่สามารถก าหนด

                  ดอกเบี้ยเกินร้อยละ 20 แต่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับผลการด าเนินงานด้วย ดังนั้น เจ้าหนี้จะไม่ทราบก่อน
                                              80
                  ล่วงหน้าว่าจะได้รับดอกเบี้ยเท่าใด


                  78  Department for Business, Energy & Industrial Strategy UK, supra note 34.
                  79  David Floyd. (2012). Myth-Busting:   Social Enterprises Re-Invest Profits into the Community.   The
                  Guardian, 15 May 2012. https://www.theguardian.com/social-enterprise-network/2012/may/15/myth-
                  social-enterprise-profits-re-invest-community
                  80  Dixson Wilson Chartered Accountants. (2019). Community Interest Companies (CICs). Dixson Wilson,
                  24 October 2019. https://www.dixonwilson.com/technical-updates/community-interest-companies-cics   31
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51