Page 43 - kpiebook66023
P. 43

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                  พ้นโทษ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเน้นการแก้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาความยากจน ความ
                  เหลื่อมล้ าในสังคม ปัญหาหนี้สิน รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ และเพื่อประโยชน์สาธารณะอื่น ๆ

                                การก าหนดความหมายไว้อย่างกว้างนี้เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน

                  สังคม ซึ่งมีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับบุคคลหลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ค าว่า “ผู้ที่สมควรได้รับการ
                  ส่งเสริมเป็นพิเศษ” อาจท าให้เกิดการตีความของกฎหมายได้ว่าครอบคลุมถึงกลุ่มบุคคลใดบ้าง เช่น กิจการ
                  ที่มีการจ้างแรงงานสตรีเป็นส่วนใหญ่ถือว่าเป็นการจ้างงานแก่ผู้สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษหรือไม่
                  หากวิสาหกิจนั้นอธิบายว่ากิจการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิสตรี หรือวิสาหกิจที่ช่วยเหลือ

                  ผู้ป่วยติดเตียง จะถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาสังคมและชุมชนได้หรือไม่ ดังนั้น กฎหมายจึงต้องมีการก าหนด
                  ความหมายของวัตถุประสงค์เพื่อสังคมไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมความหลากหลายของกิจการต่าง ๆ

                                อย่างไรก็ตาม การพิจารณาวัตถุประสงค์เพื่อสังคมอาจมีการใช้ดุลยพินิจของนายทะเบียน
                  ประกอบด้วย เมื่อไม่นานนี้ มีการออก “ประกาศส านักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ก าหนดลักษณะของกิจการที่มี
                                                                                        73
                  วัตถุประสงค์หลักเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอื่นหรือคืนประโยชน์ให้กับสังคม พ.ศ. 2565”  เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้
                  ประกอบกิจการเพื่อสังคมที่มีวัตถุประสงค์หลักอื่นนอกเหนือจากมาตรา 5(1) ได้เข้ามีส่วนร่วมในการจด
                  ทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมมากขึ้น โดยให้ถือว่ากิจการที่มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ เป็นวัตถุประสงค์
                  เพื่อสังคม และสามารถจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ ได้แก่

                                (1) กิจการที่มีการด าเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development

                  Goals – SDGs) เป็นเป้าหมายหลัก
                                (2) กิจการเกี่ยวกับการวิจัย พัฒนา หรือสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
                  หรือการแพทย์ ที่ต้องเป็นไปเพื่อการป้องกัน แก้ปัญหา และพัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อม
                                (3) กิจการเกี่ยวกับการส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ หรือสืบทอดศิลปะ วัฒนธรรม
                  และประเพณีไทย เช่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ศูนย์วัฒนธรรม โรงละคร บ้านครูหรือศูนย์การเรียนรู้วิถีชาวบ้าน

                  เป็นต้น และ
                                (4) กิจการเกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุน หรือพัฒนาการด าเนินงานของวิสาหกิจเพื่อ
                  สังคม หรือการให้การสนับสนุนกลุ่มกิจการเพื่อสังคมให้สามารถจัดตั้งเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมได้

                                ข้อ (4) นั้นมีความน่าสนใจเพราะสามารถครอบคลุมการด าเนินงานที่ค่อนข้างหลากหลาย
                  เช่น บริษัทที่ปรึกษากฎหมายที่ให้ค าแนะน าและช่วยเหลือเกี่ยวกับวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือธนาคารชุมชนที่
                  ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่กิจการที่ช่วยเหลือสังคม เป็นต้น

                                จากที่ได้ศึกษาแล้วในบทที่ 3 จะเห็นว่า กฎหมาย CIC ของสหราชอาณาจักรนั้น มีการ
                  ก าหนดแนวทางการทดสอบวัตถุประสงค์เพื่อสังคมไว้ (Community Interest Test) ซึ่งเป็นแนวทางที่กว้าง

                  กว่าที่กฎหมายไทยก าหนดไว้ กล่าวคือ กฎหมาย CIC ก าหนดไว้เพียงว่า บริษัทจะผ่านการทดสอบวัตถุประสงค์
                  เพื่อสังคมหากวิญญูชนทั่วไปมองว่ากิจการดังกล่าวด าเนินการเพื่อประโยชน์ของชุมชน ข้อจ ากัดที่ส าคัญที่
                  เกิดขึ้นจากวัตถุประสงค์เพื่อสังคม คือ วิสาหกิจเพื่อสังคมที่จัดตั้งในรูปแบบบริษัท ควรต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม
                  ข้อบังคับบริษัทให้ระบุวัตถุประสงค์เพื่อสังคมไว้ด้วย เนื่องจากรายละเอียดวัตถุประสงค์ของบริษัทตามที่กรม


                                                                                                           28
                  73  ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 237 ง หน้า 1 วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48