Page 42 - kpiebook66023
P. 42

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                                องค์ประกอบดังกล่าวถือได้ว่าเป็นหัวใจของวิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นองค์ประกอบที่จ าเป็น
                  และขาดไม่ได้ของแนวคิดว่าด้วยวิสาหกิจเพื่อสังคม รายละเอียดของลักษณะของวัตถุประสงค์เพื่อสังคมที่

                  กฎหมายก าหนดนั้น ปรากฏในมาตรา 5(1) แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมและกฎหมายล าดับรอง
                  ซึ่งจะวิเคราะห์ต่อไป ประเด็นที่จะพิจารณาในองค์ประกอบข้อนี้คือ วิสาหกิจเพื่อสังคมที่จัดตั้งในรูปแบบมูลนิธิ
                  จะไม่ประสบปัญหาในการอธิบายวัตถุประสงค์เพื่อสังคมเลย เนื่องจากกฎหมายมูลนิธิก าหนดไว้อย่างชัดเจน
                                               71
                  ว่ามูลนิธิเป็นองค์กรไม่แสวงหาก าไร  ในขณะที่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่จัดตั้งในรูปแบบบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน
                  อาจต้องมีการแก้ไขวัตถุประสงค์เพื่อสังคมเพิ่มเติมเข้าไปในข้อบังคับบริษัท เช่นเดียวกับที่ charitable CLG
                  ก าหนดว่าจะต้องระบุสถานะความเป็นองค์กรการกุศลไว้ในข้อบังคับบริษัท เนื่องจากกฎหมายห้างหุ้นส่วน
                                                                                     72
                  และบริษัทก าหนดไว้ชัดเจนว่าองค์กรเหล่านี้เป็นองค์กรที่แสวงหาก าไรเป็นส าคัญ  บริษัทและห้างหุ้นส่วน
                  ไม่สามารถก าหนดในข้อบังคับที่เป็นการขัดต่อมาตรา 1012 แห่ง ป.พ.พ. ได้ เช่น การก าหนดว่าบริษัทและ

                  ห้างหุ้นส่วนจะไม่ปันผลให้หุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ดังนั้น จึงท าให้ มาตรา 6 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริม
                  วิสาหกิจเพื่อสังคมต้องมีการก าหนดเป็นข้อยกเว้นของ ป.พ.พ. ไว้ว่าให้สามารถท าได้

                                การก าหนดข้อยกเว้นในลักษณะดังกล่าว อาจท าให้ขัดกับบทบัญญัติกฎหมายที่เป็นหลัก
                  ทั่วไป ซึ่งไม่ควรท า ในขณะที่ต่างประเทศ เช่น กฎหมาย CIC ของสหราชอาณาจักร หรือ กฎหมาย L3C
                  ของสหรัฐอเมริกา จะแก้ปัญหาที่บทบัญญัติของกฎหมายบริษัทแทน โดยเป็นการเพิ่มประเภทของบริษัทให้

                  มีความหลากหลาย รวมถึงความพยายามที่จะผลักดันให้บริษัทควรต้องส่งเสริมในเรื่องการพัฒนาอย่าง
                  ยั่งยืนด้วย แต่รูปแบบบริษัทของไทยนั้นมีเพียงรูปแบบเดียวคือ บริษัทจ ากัด แต่มี 2 ประเภท คือ
                  บริษัทเอกชนจ ากัด และบริษัทมหาชนจ ากัด


                                4.1.2 มำตรำ 5 เงื่อนไขของกำรจดทะเบียนวิสำหกิจเพื่อสังคม
                                (1) มาตรา 5(1) ความหมายของวัตถุประสงค์เพื่อสังคม


                                “มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการจ้างงานแก่บุคคลผู้สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ
                  การแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอื่นหรือคืนประโยชน์
                  ให้แก่สังคมตามที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด”


                                มาตรา 5(1) ก าหนดเงื่อนไขที่ส าคัญประการแรกที่ขาดไม่ได้ของการเป็นวิสาหกิจเพื่อ
                  สังคม คือ วัตถุประสงค์เพื่อสังคม โดยในมาตรานี้เป็นการขยายความว่าวัตถุประสงค์เพื่อสังคมตามกฎหมาย
                  นั้นมีลักษณะอย่างไร จะเห็นได้ว่า เป็นการก าหนดความหมายอย่างกว้างที่ครอบคลุมกิจกรรมการช่วยเหลือ

                  สังคมหลากหลายประการ โดยเฉพาะการจ้างงานบุคคลด้อยโอกาสในสังคม เช่น คนพิการ คนสูงอายุ หรือผู้






                  71  ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 110 “มูลนิธิได้แก่ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะส าหรับวัตถุประสงค์
                  เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษาหรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้
                  มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งปันกัน และได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้”
                  72  ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 1012 “อันว่าสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคล  27
                  ตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระท ากิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันก าไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ท านั้น”
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47