Page 29 - kpiebook66023
P. 29

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                  บริษัท หรือกรรมการบริษัทบางคนอาจได้รับเลือกโดยกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะต่าง ๆ เพราะรายได้หลักของ
                  บริษัทประเภทนี้ ยังพึ่งพาเงินบริจาคและเงินช่วยเหลือจากรัฐอยู่

                                ดังนั้น การที่ CLG ไม่มีหุ้นเป็นเงินทุน ท าให้จ ากัดความสามารถของบริษัทในการระดมทุน

                  เพราะไม่สามารถออกหุ้นให้แก่ผู้ให้การสนับสนุนและเข้าร่วมบริษัทได้ ด้วยเหตุนี้เอง บางโครงการซึ่งมิได้มุ่ง
                  แสวงหาก าไรเป็นหลัก อาจมีการจัดตั้งขึ้นในรูปของบริษัทจ ากัดโดยหุ้นเพิ่มขึ้นมา และเมื่อไม่มีผู้ถือหุ้น จึง
                  เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าของบริษัท เพราะแม้ว่าสมาชิกจะเป็นผู้ควบคุมบริษัท แต่ไม่มีหุ้นหรือหลักทรัพย์ใด ๆ
                  ในบริษัทที่สามารถจะขายให้แก่บุคคลอื่นได้ กฎหมายบริษัทไม่ได้ห้าม CLG เกี่ยวกับการแบ่งปันก าไรใน

                  ลักษณะเดียวกับ CIC แต่ส่วนใหญ่จะมีการก าหนดในข้อบังคับของบริษัทไว้เพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน ในทาง
                  ปฏิบัติ เมื่อบริษัทรูปแบบนี้เน้นการพึ่งพาเงินบริจาค ซึ่งไม่ใช่เงินลงทุนที่มีการคาดหวังผลตอบแทนเช่นหุ้น
                  ก็จะไม่มีประเด็นที่ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนคืนให้สมาชิก

                                โดยสรุปแล้ว องค์กรไม่แสวงหาก าไรเลือกที่จะจัดตั้งในรูปแบบบริษัทจ ากัดโดย
                  หลักประกัน (CLG) ด้วยเหตุผลหลักเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้จากความเป็นนิติบุคคลขององค์กรและการจ ากัด

                  ความรับผิด แต่ไม่ได้เน้นเรื่องประโยชน์ของการระดมทุนผ่านการขายหุ้น อย่างไรก็ตาม กฎหมายบริษัทเอง
                  ก็ไม่ได้ห้ามให้มีการสร้างรายได้หรือแม้แต่การแบ่งปันก าไร แต่เพราะสมาชิกของบริษัทไม่ได้มีสถานะที่จะ
                  ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ตั้งแต่แรก เพราะไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ข้อดีที่เกิดขึ้นคือ หากบริษัทต้องการหารายได้
                  จากการพึ่งพาตลาดมากขึ้น ย่อมมีความยืดหยุ่นที่จะท าได้ง่าย เช่น ด าเนินธุรกิจเอง หรือการตั้งบริษัทจ ากัด

                  โดยหุ้นขึ้นมาเพิ่มเติม

                                หากเปรียบเทียบกับกฎหมายมูลนิธิของประเทศไทยที่ไม่มีสมาชิก และไม่เปิดช่องให้มูลนิธิ
                  แสวงหาก าไรได้ ทางเลือกของกฎหมายบริษัทในลักษณะนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมเพื่อสังคม
                  อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่ส าคัญมากระหว่าง CIC และ CLG คือ CIC มีการก าหนดวัตถุประสงค์เพื่อ
                  สังคมหรือชุมชนไว้อย่างชัดเจน และจะต้องพิสูจน์ว่าปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวตลอดเวลา ในขณะที่

                  CLG ไม่มีการก าหนดเรื่องดังกล่าวไว้ แต่เพราะโครงสร้างในเรื่องการไม่มีผู้ถือหุ้น จึงไม่มีการจ่ายเงินปันผล
                  ท าให้องค์กรไม่แสวงหาก าไรเลือกใช้ค่อนข้างมาก แต่รัฐบาลได้พยายามส่งเสริมให้วิสาหกิจเพื่อสังคมหรือ
                  องค์กรไม่แสวงหาก าไรเหล่านี้มาจัดตั้งเป็น CIC แทน และปัจจุบันรูปแบบบริษัทจ ากัดโดยหลักประกันก็

                  ได้รับความนิยมน้อยลง

                                3.1.3 บริษัทเพื่อกำรกุศล (Charitable Companies)

                                องค์กรการกุศล (charity) เป็นรูปแบบที่รู้จักกันดีที่สุดที่องค์กรไม่แสวงหาก าไรเลือกใช้
                  องค์กรการกุศลจัดตั้งขึ้นเพื่อสนองเป้าหมายด้านการกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่า 1 อย่าง ซึ่งก าหนด
                  ไว้ในข้อบังคับขององค์กรนั้น ๆ เป้าหมายขององค์กรการกุศลจะต้องสอดคล้องกับบทบัญญัติที่ก าหนดไว้ใน
                  พระราชบัญญัติองค์กรการกุศล (Charities Acts) ด้วยเหตุที่องค์กรการกุศลโดยทั่วไปแล้วจะถูกห้ามมิให้

                  ด าเนินกิจการค้า (ยกเว้นในลักษณะที่เป็นส่วนเสริมภารกิจหลักขององค์กร) องค์กรเหล่านี้จึงมักจัดตั้งบริษัท
                  ขึ้นต่างหากเพื่อวัตถุประสงค์นี้ ในลักษณะที่เป็นบริษัทการค้าเพื่อการกุศล (charitable trading company)
                  ซึ่งจะแตกต่างจากบริษัทเพื่อการกุศล (charitable company)                                  14
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34