Page 34 - kpiebook66023
P. 34

มาตรการทางกฎหมาย : ศึกษารูปแบบนิติบุคคลที่เหมาะสมเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม




                  น่าเชื่อถือของรูปแบบกฎหมายพิเศษนี้ได้ ซึ่งอาจท าให้คนมองว่า ผู้ประกอบการเพื่อสังคมไม่ได้มีความ
                  จริงใจที่จะแก้ปัญหาสังคมจริง ๆ ได้

                                แน่นอนว่าไม่มีรูปแบบองค์กรหรือกฎหมายใดที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุก

                  คนได้ (No one size that fits all) L3C เองก็มีข้อด้อยเช่นเดียวกัน จริง ๆ อาจไม่เรียกว่าเป็นข้อจ ากัดเสีย
                  ทีเดียว แต่เป็นเหมือนการคาดการณ์ที่ผิดพลาด กล่าวคือ ตอนร่างกฎหมายนั้น คาดว่า L3C จะสามารถหา
                  รายได้ส่วนหนึ่งจากมูลนิธิเอกชน (private foundations) เช่น มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ (Bill &
                  Melinda Gates Foundation) เนื่องจากมูลนิธิเอกชนเหล่านี้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยมีเงื่อนไขว่า

                  จะต้องบริจาคเงินหรือลงทุนในกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม (Program-Related Investments: PRIs)
                  จ านวนร้อยละ 5 ต่อปีจากก าไรสุทธิ ท าให้การลงทุนกับ L3C ก็ถือเป็น PRI อย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถน าไป
                  ยกเว้นภาษีได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ มูลนิธิเอกชนเหล่านี้ โดยเฉพาะมูลนิธิขนาดเล็กและกลาง กลับไม่ไว้ใจ
                                                                                           52
                  ที่จะลงทุนใน L3C และไม่ต้องการยุ่งยากในเรื่องการแจกแจงรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย  ปัญหาดังกล่าว
                  สะท้อนให้เห็นถึงความส าคัญของบทบาทของกฎหมายและการออกแบบกฎหมายอย่างมาก เพราะแม้ว่าเรา
                  จะมีกฎหมายส าหรับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ก็อาจมีกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

                                เนื่องจาก L3C มีพื้นฐานเป็นบริษัทจ ากัด ท าให้สามารถหารายได้จากการขายสินค้าและ
                  บริการได้ง่ายกว่ารูปแบบองค์กรไม่แสวงหาก าไร โดยกฎหมายก าหนดว่าการท ากิจกรรมทางธุรกิจนั้น
                  จะต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เพื่อสังคมหรือการกุศล แต่การหารายได้หรือก าไรนั้น กฎหมายไม่ได้มี

                  ก าหนดข้อจ ากัดไว้ นักวิชาการบางกลุ่มมองว่า กฎหมายบริษัททั่วไปก็มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับ
                  ความเป็นลูกผสมของวิสาหกิจเพื่อสังคมได้ จึงอาจไม่จ าเป็นต้องมีกฎหมายใหม่โดยเฉพาะก็ได้ แต่ใน
                  ขณะเดียวกัน ก็มีอีกกลุ่มเห็นว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมนั้นท าให้เกิดความเคลื่อนไหวทางสังคม กล่าวคือ ท าให้

                  เกิดทั้งรูปแบบองค์กรธุรกิจแบบใหม่ และวิธีการด าเนินธุรกิจแบบใหม่ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า นวัตกรรมทาง
                  สังคม (social innovation) ดังนั้น การเกิดขึ้นของรูปแบบองค์กรใหม่นี้ จึงไม่ได้เป็นเรื่องความจ าเป็น
                  หรือไม่ แต่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางสังคมดังกล่าว และหากพิจารณา
                  พัฒนาการของวิสาหกิจเพื่อสังคมในยุโรปแล้ว จะพบว่าเกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมในลักษณะเดียวกัน ซึ่ง
                                                         53
                  รวมถึงการออกกฎหมายใหม่ออกมาด้วยเช่นกัน

                                L3C มีองค์ประกอบหลักที่กฎหมายก าหนด 3 ประการ คือ (1) L3C จะต้องด าเนิน
                  กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของสาธารณประโยชน์ (2) L3C จะต้องไม่จัดตั้งขึ้นเพียงเพื่อจะสะสม
                  ทรัพย์สินหรือสร้างก าไรเท่านั้น และ (3) L3C จะต้องไม่จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง โครงสร้าง
                  ทางกฎหมายของ L3C นั้น ได้ต้นแบบมาจากมาตรา 4944(c) ของประมวลกฎหมายภาษีของสหรัฐอเมริกา









                  52  J. Haskell Murray and Edward I. Hwang. (2011). Purpose with Profit: Governance, Enforcement, Capital-
                  Raising and Capital-Locking in Low-Profit Limited Liability Companies.   University of Miami Law Review,
                  66(1), pp. 1-52, 24-25.                                                                  19
                  53  Smiddy, supra note 49.
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39