Page 30 - kpiebook66022
P. 30
สถาบันพระปกเกล้า
King Prajadhipok’s Institute
ผลการศึกษาครั้งนั้นพบว่า การดำาเนินงานของรัฐสภาไทย ชุดที่ 24 (พ.ศ. 2556) ในภาพรวม
อยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย=2.67 S.D.=0.60) โดยผู้เข้าร่วมประเมินให้คะแนนต่อการทำาหน้าที่
นิติบัญญัติมากที่สุดที่ 2.93 รองลงมา คือ การทำาหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร มีค่าเฉลี่ย 2.85 ตามมาด้วย
การมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศมีค่าเฉลี่ยที่ 2.77 และความโปร่งใสและการเข้าถึงได้
ค่าเฉลี่ย 2.53 ขณะที่ความเป็นตัวแทนประชาชนมีค่าเฉลี่ย 2.52 และความสำานึกรับผิดชอบมีค่าเฉลี่ย 2.41
R
2.52
2.85
2.77
I O R การเป็นตัวแทนของประชาชน
O การตรวจสอบฝ่ายบริหาร
L การทำาหน้าที่นิติบัญญัติ
T ความโปร่งใสและการเข้าถึงได้
A ความสำานึกรับผิดชอบ
2.41
I การมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศ
A L
2.93 ค่าเฉลี่ย
2.53
T
ภาพ 2 ค่าเฉลี่ยผลการประเมินรัฐสภาโดยภาพรวม
สำาหรับข้อเสนอแนะในครั้งนั้น คณะผู้วิจัยประมวลจากความเห็นจากการประชุมกลุ่ม โดยมี
ข้อเสนอเชิงนโยบายให้มีการศึกษาในระยะยาวเปรียบเทียบทุกปีโดยมีการศึกษาในแต่ละด้านให้ชัดเจน
ในเชิงลึก นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอที่เป็นรายละเอียดในการดำาเนินการ ดังนี้
สำานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำานักงานเลขาธิการวุฒิสภา ควรจัดทำา
กรอบ กระบวนการ กลไก และวิธีปฏิบัติในการป้องกัน สอบสวน ลงโทษสมาชิกรัฐสภาเมื่อมีการกระทำาผิด
หรือเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนตามมาตรฐานสากล รวมทั้งการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน
และภาคประชาสังคมรับรู้และมีส่วนร่วมในการติดตาม เฝ้าดูและลงโทษสมาชิกรัฐสภาที่มีพฤติกรรม
ผิดจริยธรรมหรือเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ผ่านกลไกการเลือกตั้งและตรวจสอบอื่น ๆ
ควรมีการเสริมสร้างและสนับสนุนให้ภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทในการถ่วงดุล
อำานาจของสมาชิกรัฐสภาโดยผ่านกลไกต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่การให้ความรู้ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับ
บทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบและการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา การให้ข้อมูลข่าวสารที่เรียบง่าย
การจัดเวทีหรือพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
สำานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำานักงานเลขาธิการวุฒิสภาควรพัฒนา
ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงระบบการรับ - ส่งข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาแพร่กระจาย
ไปสู่ประชาชนให้ทั่วถึง แพร่หลาย เสมอภาค และเท่าเทียมกัน
16