Page 33 - kpiebook66022
P. 33
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
จากผลที่ได้สรุปได้ว่า การดำาเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติอยู่ในระดับปานกลาง
ทุกด้าน โดยเมื่อพิจารณาเป็นรายองค์ประกอบ พบว่า ด้านการมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศ
มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 2.73 S.D. = 0.89) รองลงมา คือ ด้านการทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ
ด้านความสำานึกรับผิดชอบ ด้านการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
่
และ ด้านการเป็นตัวแทนของประชาชน มีค่าเฉลี่ยตำาที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 2.05 S.D. = 0.88) งานวิจัย
ในครั้งนั้น มีข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้
(1) ข้อเสนอแนะด้านการเป็นตัวแทนประชาชน
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ควรมีการกระจายคนที่ทำาหน้าที่ให้เหมาะสมกับวงงานด้านต่าง ๆ
ให้มีกระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกเพศหญิงมากขึ้น โดยมีสัดส่วนเพศหญิง
อย่างน้อย ร้อยละ 20
ควรจัดระบบอย่างเป็นทางการว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติ มีตัวแทนกลุ่มใดบ้าง
อาทิ กลุ่มทหาร กลุ่มข้าราชการ ข้าราชการพลเรือน นักธุรกิจ เป็นต้น
ข้อเสนอแนะเชิงบริหารจัดการ
การได้มาซึ่งสมาชิกควรมีการปรับปรุงกติกาการคัดเลือกให้หลากหลาย
โดยเฉพาะการให้มีฝ่ายที่เห็นต่างเข้ามาร่วมด้วย
การดำาเนินงานต้องเข้าถึงประชาชน ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และต้องให้
ข้อมูลในการลงพื้นที่
(2) ข้อเสนอแนะด้านการทำาหน้าที่นิติบัญญัติ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย
ในการพิจารณากฎหมายควรกำาหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน เพื่อให้การพิจารณาสำาเร็จ
ควรมีการรับฟังความคิดเห็นให้รอบด้านมากขึ้น เพื่อให้การพิจารณากฎหมาย
มีความรอบคอบ
ควรดำาเนินการตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2560 อย่างเคร่งครัด
ควรให้โอกาสประชาชนสามารถเสนอกฎหมายได้มากขึ้น
ข้อเสนอเชิงการบริหารจัดการ
ควรชี้แจงให้ประชาชนทราบว่ากฎหมายเรื่องใดถูกพิจารณา ในการพิจารณานั้น
เหตุใดจึงพิจารณาช้าหรือเร็ว เรื่องที่พิจารณาผ่านหรือไม่ผ่านเพราะเหตุใด เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตาม
ตรวจสอบการทำางานได้ดียิ่งขึ้น
ควรมีแผนจัดลำาดับความสำาคัญของกฎหมายให้ชัดเจน
ควรจัดระบบรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับร่างกฎหมาย
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
19