Page 24 - kpiebook66022
P. 24

สถาบันพระปกเกล้า
             King Prajadhipok’s Institute

          ก็มีความรู้สึกว่า สื่อทำาให้ตนเสื่อมเสีย เช่น การเผยแพร่ภาพการประชุมของรัฐสภา โดยมีสมาชิกเข้าร่วม
          ประชุมเป็นจำานวนน้อย ทำาให้ประชาชนเข้าใจไปว่าสมาชิกรัฐสภาที่ตนเลือกเข้าไปละเลยหรือไม่ทำาหน้าที่
          ของตน แต่ข้อเท็จจริงก็คือ สมาชิกที่ขาดหายไปนั้น ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการ เป็นต้น
                     รัฐสภาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทำางานในคณะกรรมาธิการ ปัจจุบันรัฐสภาในหลายประเทศ
          ส่วนใหญ่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์คณะกรรมาธิการต่อสาธารณะ จะเป็นประโยชน์หากให้สื่อมวลชน
          มีความรู้ความเข้าใจทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับการทำางานของคณะกรรมาธิการ อาทิ การอนุญาตให้สื่อเข้าฟังหรือ

          สังเกตการณ์การประชุมคณะกรรมาธิการและรายงานผลการประชุมต่อสาธารณะ
                  (ค) ความเป็นรัฐสภาที่สามารถเข้าถึงได้ (Accessible parliament)
                     (1)  ปัจจัยที่สมาชิกรัฐสภาจะต้องคำานึงถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชน ก็คือ
          เวลา (Time) รัฐสภาส่วนใหญ่จะสำารอง 1 - 2 วันในช่วงต้นหรือปลายสัปดาห์เพื่อไปพบปะประชาชน
          ในช่วงสมัยประชุมรัฐสภาศรีลังกาจะสำารองเวลาสัปดาห์ที่สองและที่สี่ของเดือนสำาหรับพบปะประชาชน
          สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของประเทศชิลีจะทำางานในรัฐสภาสัปดาห์ที่หนึ่งถึงที่สาม ส่วนสัปดาห์ที่สี่
          ก็จะไปประกอบภารกิจในพื้นที่
                     (2)  การใช้อีเมล เป็นวิธีที่สะดวก ง่ายและรวดเร็ว และสามารถติดต่อสัมพันธ์กับ
          ประชาชนเป็นวงกว้าง เสียค่าใช้จ่ายน้อย อุปสรรคที่เกิดขึ้นก็คืออีเมลรัฐสภามีข้อความล้น วิธีแก้ไข คือ

                              การจัดทำาระบบการคัดเลือก  เก็บข้อความ  และแจ้งตอบอัตโนมัติ
          (automatic reply)
                              การแนะนำาให้ประชาชนติดต่อสมาชิกรัฐสภาด้วยการส่งจดหมายร้องเรียน
          หรือรัฐสภาอาจจะทำาแบบฟอร์มร้องเรียน
                     (3)  สิ่งอำานวยความสะดวกของรัฐสภา อาทิ การจัดตั้งสำานักงานรัฐสภาสาขา เพื่ออำานวย
          ความสะดวกให้แก่สมาชิกรัฐสภาในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในเขตเลือกตั้ง และใช้เป็นพื้นที่
          ในการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกกฎหมาย ทั้งนี้ การใช้ช่องทางการสื่อสารกับประชาชน

          และการมีส่วนร่วมของประชาชนจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อสมาชิกรัฐสภาจะต้องมีความซื่อตรงหรือ
          มีธรรมอยู่ในใจ
                     (4)  การพัฒนาท้องถิ่น อาทิ การช่วยท้องถิ่นพัฒนาและจัดทำาโครงการที่ประชาชน
                           ้
          ต้องการ เช่น การจัดหานำาสะอาดและการจัดหาความต้องการด้านสุขาภิบาล การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
          การช่วยประชาชนหาเงินสนับสนุนโครงการ การให้ความร่วมมือกับเอ็นจีโอในการพัฒนาท้องถิ่น การร้องขอ
          หน่วยงาน (กระทรวง ทบวงและกรม) จัดสรรงบประมาณให้แก่ท้องถิ่น เป็นต้น
               2.1.5  ความสำานึกรับผิดชอบของรัฐสภา
                                              8
                   ความสำานึกรับผิดชอบ ประกอบด้วย ความสำานึกรับผิดชอบแนวตั้ง (Vertical accountability)
          และความสำานึกรับผิดชอบแนวนอน (Horizontal accountability) โดยความสำานึกรับผิดชอบแนวตั้ง

          ของรัฐสภา คือ การมีจิตสำานึกความรับผิดชอบต่อประชาชน กลไกทำาหน้าที่ควบคุมความสำานึกรับผิดชอบ


               8   แหล่งเดิม, (น. 2-43 – 2-45)
           10
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29