Page 19 - kpiebook66015
P. 19

ปัญหานี้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในโลกตะวันตกอย่างเยอรมนี ที่ระบบดังกล่าวได้ท าให้เห็นอย่าง

               ชัดเจนว่าการใช้ระบบรัฐสภาอาจน าไปสู่กรณีที่พรรคใดพรรคหนึ่งสามารถคุมเสียงข้างมากจนใช้อ านาจ
               นิติบัญญัติและบริหารไปในทางที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้ตามอ าเภอใจ และยิ่งปราศจากระบบการ
                                                             10
               ควบคุมตรวจสอบจากทางอื่นก็ยิ่งท าให้เกิดผลเสียหายได้

                        ด้วยเหตุนี้ หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา หลายประเทศที่ได้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
               หรือปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ก็จะจัดวางโครงสร้างขององค์กรทางการเมืองใหม่ โดยก าหนดให้มีระบบการตรวจสอบ

               ถ่วงดุลระหว่างองค์กรทางการเมืองจนเกิดเป็นแนวคิดทางกฎหมายรัฐธรรมนูญใหม่ที่เรียกว่า “ระบบรัฐสภาที่
               ท าให้มีเหตุผลขึ้น” และชาติชายยังได้กล่าวต่อว่า ระบบดังกล่าวนี้มีองค์ประกอบที่ส าคัญสองประการ คือ


                              หนึ่ง การก าหนดให้มีองค์กรควบคุมตรวจสอบทางการเมืองนอกเหนือจากองค์กรหรือกลไก
               เดิมที่มีแค่ให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบกันเอง (เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ฯลฯ) และ

                              สอง คือ ปรับปรุงระบบการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารให้มีการ

                                               11
               ควบคุมตรวจสอบกันได้อย่างเหมาะสม
                        จะเห็นได้ว่า หลายประเทศเองก็ได้เกิดปัญหาเรื่องการตรวจสอบระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่าย

               บริหารในการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาเช่นเดียวกัน จึงน าไปสู่การจัดวางโครงสร้างของ
               องค์กรทางการเมืองใหม่และสร้างระบบตรวจสอบให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการจัดวางความสัมพันธ์

               ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม การสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นนั้น
               ก็ต้องค านึงถึงการท างานของรัฐบาลซึ่งท าหน้าที่ในการก าหนดนโยบายบริหารราชการแผ่นดินด้วย หรือกล่าวอีกนัย
               หนึ่งก็คือการสร้างระบบการตรวจสอบ ต้องเพียงพอที่จะท าให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุลที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็

               ต้องไม่เกินเลยไปจนท าให้รัฐบาลท างานไม่ได้จนต้องมีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยครั้งจนการบริหารราชการแผ่นดิน
               ขาดความต่อเนื่องและไม่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับสาธารณรัฐฝรั่งเศสในสมัยสาธารณรัฐที่ 3 ซึ่งมีการ

                                                        12
               เปลี่ยนแปลงรัฐบาลถึง 93 คน ภายในเวลา 65 ปี  ดังนั้น ในการศึกษาประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง
               ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร จึงจ าเป็นต้องกล่าวถึงแนวคิดเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล


               2.4 แนวคิดเกี่ยวกับเสถียรภาพรัฐบาล
                        ในส่วนของประเด็นที่เกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลนี้ ชาติชายได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างของการมี

               “เสถียรภาพรัฐบาล” และการมี “เสถียรภาพทางการเมือง” โดยเมื่อกล่าวถึงค าว่า “เสถียรภาพของรัฐบาล”
               ย่อมหมายถึง









               10  ชาติชาย ณ เชียงใหม่. 2563. การจัดความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560.
               กรุงเทพมหานคร : สถาบันพระปกเกล้า หน้า 30
               11  เรื่องเดียวกัน หน้า 31
               12  Goguel, François. “Political Instability in France.” Foreign Affairs, vol. 33, no. 1, 1954, pp. 111–22. JSTOR,
               https://doi.org/10.2307/20031079. Accessed 10 oct. 2022.



                                                                                                            18
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24