Page 17 - kpiebook66015
P. 17
ก็อาจต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และค าพิพากษาของศาลก็อาจถูกกลับได้ด้วยการแก้ไขเพิ่มเติม
8
รัฐธรรมนูญมาตรา 5 เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงหลักการแบ่งแยกการใช้อ านาจแล้ว จะเห็นได้ว่า หลักการดังกล่าวมุ่งที่จะให้
เกิดการจัดวางโครงสร้างขององค์กรที่ใช้อ านาจรัฐ โดยแบ่งอ านาจอธิปไตยหรือก็คือหน้าที่ (function) ใน
อ านาจอธิปไตยเหล่านั้นออก และให้องค์กรที่ใช้อ านาจอธิปไตยต่างองค์กรกันเป็นผู้ใช้อ านาจเหล่านั้น โดยไม่
ปล่อยให้การใช้อ านาจเหล่านั้นผูกขาดอยู่ที่องค์กรองค์กรหนึ่งแต่เพียงองค์กรเดียว ซึ่งอาจน าไปสู่การผูกขาด
อ านาจและล่วงละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้
2.2 การสร้างกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารตามหลักการแบ่งแยกการใช้อ านาจ
เมื่อถือว่าหลักการแบ่งแยกการใช้อ านาจเป็นหลักส าคัญในการก าหนดกลไกเพื่อป้องกันไม่ให้องค์กร
ของรัฐองค์กรใดองค์กรหนึ่งมีอ านาจมากเกินไปจนอาจน าไปสู่การใช้อ านาจไปในทางที่ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพ
ของประชาชนได้แล้ว ประเด็นส าคัญที่จะต้องกล่าวถึงต่อไปก็คือ จะจัดวางโครงสร้างความสัมพันธ์เชิงอ านาจ
ของทั้งสองฝ่ายนี้อย่างไร เพื่อให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุลตามหลักการแบ่งแยกการใช้อ านาจ ซึ่งการจัดวาง
โครงสร้างทางการเมืองการปกครองในแต่ละประเทศก็จะก าหนดความสัมพันธ์เชิงอ านาจนี้ต่างกันออกไป
ซึ่งในงานวิจัยนี้ จะขอมุ่งกล่าวถึงเฉพาะการจัดวางความสัมพันธ์เชิงอ านาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
เท่านั้น
9
ทั้งนี้ หยุด แสงอุทัย ได้เคยกล่าวถึงความสัมพันธ์เชิงอ านาจของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร
โดยกล่าวถึงในมุมของการใช้อ านาจฝ่ายนิติบัญญัติในการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร และการใช้อ านาจ
ฝ่ายบริหารในการตรวจสอบถ่วงดุลกับฝ่ายนิติบัญญัติ ไว้ในหนังสือ “ค าบรรยายกฎหมายรัฐธรรมนูญ” ดังนี้
- การตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยฝ่ายนิติบัญญัติ สามารถท าได้โดย
(1) การก าหนดให้ฝ่ายบริหารจะด ารงต าแหน่งได้ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ
ซึ่งการก าหนดให้ฝ่ายบริหารจะต้องอยู่ได้ด้วยความไว้วางใจของฝ่ายนิติบัญญัตินั้น อาจท าได้ โดยให้
ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้เลือกประมุขของฝ่ายบริหารอย่างในระบบรัฐสภา และก าหนดให้ฝ่ายบริหารจะต้องแถลง
นโยบายต่อฝ่ายนิติบัญญัติต่อเข้ารับต าแหน่ง โดยฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องให้ความไว้วางใจต่อการแถลงนโยบาย
นั้น ด้วยการลงมติไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม ในกรณีของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยก าหนดไว้เพียงว่า ให้มี
การแถลงนโยบาย แต่ไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการแถลงนโยบายก่อนเข้ารับต าแหน่งนั้น เป็นกรณีที่
มีการแถลงนโยบายโดยที่รัฐบาลยังไม่ได้ท างานจริง ซึ่งอาจไม่ยุติธรรมกับฝ่ายรัฐบาลเอง ดังนั้น จึงเป็นแต่เพียง
ให้รัฐสภาสามารถอภิปรายได้เมื่อมีการแถลงนโยบาย
(2) การก าหนดมาตรการให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้
กลไกการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีมาแต่ดั้งเดิม ได้แก่ การก าหนดให้สมาชิกฝ่ายนิติ
บัญญัติสามารถตั้งกระทู้ถามรัฐบาลโดยจะถามนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบก็ได้ เพื่อให้มาตอบข้อ
8 Ibid.
9 หยุด แสงอุทัย, 2515, ค าบรรยายกฎหมายรัฐธรรมนูญ, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน้า 56-62
16