Page 13 - kpiebook66015
P. 13
ด าเนินนโยบายตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ตอนหาเสียง ดังนั้น การสร้างระบบควบคุมการบริหารราชการ
แผ่นดินให้ถึงขนาดที่พรรคฝ่ายค้านซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยสามารถตรวจสอบหรือล้มล้างการตัดสินใจของรัฐบาล
ได้ หรือสร้างระบบที่ท าให้เกิดการน าประเด็นทางการเมืองไปเป็นเรื่องทางกฎหมายได้ทุกเรื่อง ก็อาจท าให้
ได้ผลลัพธ์ที่ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกตัวแทนจากพรรคการเมืองนั้นมา ซึ่งเท่ากับขัดต่อ
หลักของประชาธิปไตย ดังนั้น ในส่วนของการศึกษากรณีศึกษาต่างประเทศนี้ จึงต้องค านึงถึงประเด็นดังกล่าว
โดยสามารถแบ่งการสร้างกลไกตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารในต่างประเทศได้ ดังนี้
1) การสร้างการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยใช้กลไกอย่างอื่นหรือองค์กรอย่างอื่น และให้
สมาชิกรัฐสภาเสียงข้างน้อยสามารถน าประเด็นที่ต้องการตรวจสอบเข้าสู่การตรวจสอบโดยกลไกหรือองค์กร
นั้นได้ เช่น การก าหนดให้มีศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญขององค์กรใต้รัฐธรรมนูญ (ซึ่ง
รวมถึงฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติด้วย) หรือการใช้กลไกเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ โดยให้สมาชิก
รัฐสภาเสียงข้างน้อยสามารถน าประเด็นที่ส าคัญที่ต้องการคืนอ านาจให้ประชาชนตัดสินใจนั้น ไปขอให้มีการ
ออกเสียงประชามติ ซึ่งกรณีศึกษาต่างประเทศที่มีการใช้กลไกเหล่านี้ ผู้เขียนจะขอศึกษาถึงกระบวนการ และ
ขอบเขตของประเทศที่จะสามารถน าเรื่องเข้าสู่การตรวจสอบโดยกลไกหรือองค์กรนั้นได้
2) การสร้างการตรวจสอบถ่วงดุลภายในรัฐสภาเอง ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบโดยฝ่ายการเมือง
นั่นก็คือ การสร้างระบบให้มีการตรวจสอบและใช้การตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตยภายในพรรคการเมืองเอง
และการสร้างกลไกที่เอื้อต่อการให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสามารถตรวจสอบการท างานของฝ่ายบริหารได้
แม้ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดียวกับฝ่ายบริหารก็ตาม
บทที่ 5 : บทสรุปและข้อเสนอแนะส าหรับกรณึของประเทศไทย ซึ่งจะไม่เกินเลยไปถึงการก าหนด
ระบบการเลือกตั้งใหม่ หรือระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบใหม่ซึ่งท าให้การตรวจสอบ
ถ่วงดุลท าได้อย่างกว้างขวางมากกว่านี้ เพราะผู้เขียนเห็นว่าผิดธรรมชาติของการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยที่ยึดถือเสียงของประชาชนเป็นส าคัญ
12