Page 21 - kpiebook66015
P. 21
บทที่ 3
ความสัมพันธ์ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภา
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ในบทนี้ จะเป็นการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารตามระบบรัฐสภาที่
บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยจะจ ากัดเฉพาะการบัญญัติถึงความสัมพันธ์ของฝ่ายนิติ
บัญญัติและฝ่ายบริหารตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับถาวรเท่านั้น แต่จะไม่กล่าวถึงประเด็น
ดังกล่าวที่บัญญัติไว้ในธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักรหรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับ
ชั่วคราว เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ประเทศไทยจะถูกปกครองอยู่ภายใต้รัฐบาลที่มาจากคณะ
รัฐประหาร และสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ท าหน้าที่นิติบัญญัติก็มีที่มาจากคณะรัฐประหารอย่างชัดเจน
ความสัมพันธ์ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในขณะนั้นจึงไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการตรวจสอบถ่วงดุลหรือ
การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากนี้ การกล่าวถึงความสัมพันธ์ของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่าย
บริหารตามระบบรัฐสภาในบทนี้ จะมุ่งเน้นการกล่าวถึงข้อเท็จจริงบางประการที่เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับกลไก
ในการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจะแบ่งเป็น (1) ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ
และฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และ (2) ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในระบบ
รัฐสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2540 ซึ่งผู้เขียนเลือกใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เป็นจุดแบ่งนี้
เนื่องจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวอยู่ภายใต้กระแสการเมืองที่ต้องการมีการปฏิรูปการเมืองการ
ปกครองของประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพให้แก่รัฐบาล จึงได้มีการสร้างกลไกหรือเปลี่ยนแปลง
กลไกที่มีอยู่เดิมหลายประการ
3.1 ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารในระบบรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทยก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบ
ประชาธิปไตยใน พ.ศ. 2475 และมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองนั้น รัฐธรรมนูญของไทยก็ได้
บัญญัติตลอดมาว่าประเทศไทยยังคงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ โดยพระราชบัญญัติธรรมนูญการ
ปกครองแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 ได้บัญญัติว่า
“กษัตริย์เป็นประมุขสูงสุดของประเทศ พระรำชบัญญัติก็ดี ค ำวินิจฉัยของศำลก็ดี กำรอื่น ๆ ซึ่งจะมี
16
กฎหมำยระบุไว้โดยเฉพำะก็ดี จะต้องกระท ำในนำมของกษัตริย์”
และเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ก็ได้มีการบัญญัติ
ให้พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ โดยบัญญัติว่า
16 พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักสยาม พุทธศักราช 2475 มาตรา 3
20