Page 23 - kpiebook66004
P. 23
23
ทิศูทางการเมืองของแนวคิดแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิราะการให้ความสำคัญกับัประชาชนคงเป็น
หลักฐานชั�นดีว่าสำหรับัลาคลาวและมูฟ เป้าหมายในการต่อสู้ของฝ่่ายซ้ายจะไม่ใช่เรื�องของการปฏิิวัติหรือล้มล้างระบัอบั
การเมืองปัจจุบัันหากแต่จะเป็นการเคลื�อนไหวภายใต้เงื�อนไขของประชาธิ์ิปไตยซึ�งมีศููนย์กลางอยู่ที�อำนาจของประชาชน 40
กระนั�น ควรทราบัไว้ว่าแม้อาจให้ความสำคัญกับัประชาชน แต่ลาคลาวและมูฟก็ไม่เคยพิิจารณีาว่าประชาชน
คือตัวตนที�ดำรงอยู่จริง ๆ เพิราะสำหรับัทั�งคู่ ประชาชน จะไม่ใช่อะไรเลยนอกจากชื�อหรือรูปสัญญะที�ถูกใช้เพิื�อ
สื�อไปถึงความต้องการของผู้คนทั�งหมดในสังคม ประชาชนจึงเป็นสิ�งที�ต้องถูกสร้างมากว่าจะเป็นเรื�องของ “ตัวจริง”
41
ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิ์ิปไตยในระบัอบัประชาธิ์ิปไตย การเคลื�อนไหวทางการเมืองแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์จึงไม่ใช่
การเคลื�อนไหวเพิื�อเป็นตัวแทนของประชาชน (เหมือนกับัการเคลื�อนไหวแบับัลัทธิ์ิมาร์กซ์ดั�งเดิมที�จะอ้างว่าเป็น
ตัวแทนของชนชั�นกรรมาชีพิที�ถูกขูดรีด) แต่คือการเคลื�อนไหวที�มุ่งก่อร่างสร้างประชาชนผ่านปฏิิบััติการแห่ง
อำนาจนำซึ�งเน้นการเชื�อมต่อวาระทางการเมืองของตนเองเข้ากับักลุ่มต่าง ๆ จนเข้าถึงพิลังประชานิยม และ
สถาปนาเป็นการเคลื�อนไหวในนามของ “ประชาชน” ในท้ายที�สุด
นั�นจึงไม่แปลกที�สุดท้ายแล้ว การเคลื�อนไหวแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์จะถูกเข้าใจว่าเป็นการเคลื�อนไหวตาม
แนวทางของซ้ายประชานิยม ที�ให้ความสำคัญกับัการก่อร่างสร้างประชาชนเพิื�อดึงเอาพิลังประชานิยมมาเป็นฐานสำคัญ
สำหรับัเปลี�ยนแปลงและสร้างสังคมการเมืองที�สนองตอบัต่อความปรารถนาของทุกคน และก็คงไม่แปลกอีกเช่นที�
การเคลื�อนไหวดังกล่าวจะมีลักษณีะคล้ายคลึงกับัการเคลื�อนไหวของฝ่่ายขวาคลั�งชาติ ซึ�งเน้นขับัเคลื�อนขบัวนการ
42
ผ่านการอ้างอิงกลับัไปถึงพิลังของประชาชนควบัคู่ไปกับัการจัดตั�งปรปักษ์ของประชาชนในฐานะปรปักษ์ของชาติ
อย่างไรก็ตาม แม้การเคลื�อนไหวแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์ อาจดูเป็นการเคลื�อนไหวแบับัประชานิยมที�ขับัเคลื�อนด้วยการ
กำหนดปรปักษ์ของประชาชน แต่การขีดเส้นเพิื�อกำหนดปรปักษ์ของประชาชนดังกล่าว ก็กลับัแตกต่างไปจากการเคลื�อนไหว
ของพิวกฝ่่ายขวาคลั�งขาติ เพิราะในขณีะที�การกำหนดปรปักษ์ของประชาชนตามแบับัของฝ่่ายขวาจะเป็นการกำหนด
บันการแบั่งแยกตามเส้นแนวตั�งระหว่างพิวกที�ร่วมชาติ ร่วมเผ่าพิันธิ์ุ์เดียวกันกับัพิวกที�อยู่กันคนละเผ่าพิันธิ์ุ์ คนละชาติ
การกำหนดปรปักษ์ของประชาชนตามแนวทางของลาคลาวและมูฟจะเป็นการกำหนดบันการแบั่งแยกแนวนอน
ระหว่างคนส่วนใหญ่ในสังคมที�ถูกกดขี�กับัอภิสิทธิ์ิ�ชนที�คอยกดขี�พิวกเขา การเคลื�อนไหวประชานิยมแบับัหลังลัทธิ์ิมาร์กซ์
จึงไม่ใช่การเคลื�อนไหวที�อ้างอิงไปถึงความบัริสุทธิ์ิ�ทางชาติพิันธิ์์ แต่จะเป็นการเคลื�อนไหวที�มุ่งล้มล้างอภิสิทธิ์ิ�ชน
ด้วยการนำเสนอและเผยแพิร่ให้ความเสมอภาคเป็นเป้าหมายปลายทางของทุกคนในสังคม
แต่การเคลื�อนไหวที�มุ่งแบั่งแยกระหว่างประชาชนกับัอภิสิทธิ์ิ�ชน (ในฐานะปรปักษ์ของประชาชน) จะเกิดขึ�น
ได้อย่างไร? อะไรคือแนวทางยุทธิ์ศูาสตร์ที�ช่วยให้การเคลื�อนไหวแบับัซ้ายประชานิยมดังกล่าวเป็นไปได้? เพิื�อจะ
ตอบัคำถามดังกล่าว บัทถัดไปจะเป็นการนำเสนอรูปธิ์รรมของการเคลื�อนไหวแบับัซ้ายประชานิยมที�ขับัเคลื�อน
ผ่านการกำหนดปรปักษ์ของประชาชนตามการแบั่งแยกแนวนอน เพิื�อแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบัต่าง ๆ ที�ทำให้
การเคลื�อนไหวดังกล่าวเป็นไปได้ไม่ว่าจะในบัริบัทของสังคมการเมืองยุโรปอย่างในกรณีีของประเทศูสเปนและกรีซ
หรือในบัริบัทที�อำนาจของประชาชนอาจยังไม่ได้ตั�งมั�นอย่างในสังคมการเมืองไทย ดังที�จะได้อธิ์ิบัายให้เห็นต่อไป
40 สำหรับัความสัมพิันธิ์์ระหว่างประชาชนและหลักการขั�นพิื�นฐานของประชาธิ์ิปไตย สามารถดูเพิิ�มเติมได้ใน Andreas Kalyvas,
“Constituent Power”, in Political Concepts: A Critical Lexicon, J.M. Bernstein, Adi Ohhir, and Ann Laura Stoler(Edited)
(New York: Fordham University Press,2018)
41 Laclau and Mouffe, Hegemony and Socialist Strategy: Towards a Radical Democratic Politics, pp. 138-139.
42 ดูตัวอย่างการเคลื�อนไหวแบับัฝ่่ายขวาที�จัดวางให้ปรปักษ์ของประชาชนมีลักษณีะเป็นปรปักษของชาติได้ใน Michael Mann, The
Dark side of Democracy: Explaining Ethnic Cleansing (reprinted edition) (Cambridge: Cambridge University Press, 2004)