Page 196 - kpiebook65043
P. 196

196  สรุปการประชุมวิชาการ
           สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
         ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


           ระบอบเผด็จการมาโดยตลอด จนกระทั่งในสมัยของนโปเลียน ก็ได้มีความพยายามในการสร้าง
           ฐานการใช้อำนาจในลักษณะของผู้นำที่มีความชอบธรรมมาจากปวงชน ซึ่งตลอดสมัยของ
           นโปเลียนก็ได้มีความพยายามสร้างพื้นที่พิเศษหรือเอกสิทธิ์ให้แก่การดำเนินงานของฝ่ายบริหาร
           ไม่ว่าจะเป็น การตั้งสภาแห่งรัฐ (Conseil d’Etat) ซึ่งทำหน้าที่วินิจฉัยคดีของฝ่ายปกครอง

           โดยเฉพาะ (ไม่ให้ไปตกอยู่ในอำนาจศาลยุติธรรม) และสภาแห่งรัฐเองก็ได้วางหลักการกระทำ
           ทางรัฐบาลซึ่งเป็นการดำเนินการของฝ่ายบริหารที่ฝ่ายตุลาการจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

                 การสร้างพื้นที่เฉพาะในการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารโดยอาศัยฐานที่มาจากเสียงของ
           ปวงชน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อใดที่ฝ่ายบริหารใช้อำนาจโดยมีที่มาจากฐานเสียงของ

           ประชาชนหรือได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างชัดเจนจนไม่มีองค์กรอื่นกล้าวินิจฉัยกลับ
           การตัดสินใจของฝ่ายบริหารนั้นปรากฏขึ้นมาตลอด และเห็นได้ชัดเจนอย่างยิ่งในสมัยของ
           ประธานาธิบดีชาร์ลส์ เดอโกลล์ (Charles de Gaulle) โดยใน ค.ศ. 1962 นั้น ประธานาธิบดี

           เดอโกลต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยเปลี่ยนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากการเลือกตั้ง
           ทางอ้อมให้มาเป็นการเลือกตั้งโดยตรง โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นจะต้องแก้ไขเพิ่มเติม
           รัฐธรรมนูญ และจะต้องนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมไปผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
           อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเสียงจากรัฐสภาแล้ว ทำให้เดอโกลเห็นได้ว่ามีความเสี่ยงสูงมาก
           ที่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจะไม่ได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากวุฒิสภาเสียงข้างมากและ

           สภานิติบัญญัติแห่งชาติบางส่วนไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเดอโกล ด้วยเหตุนี้ เดอโกลจึงตัดสินใจ
           ใช้กระบวนการอีกอย่างตามรัฐธรรมนูญมาตรา 11 ซึ่งกำหนดให้ประธานาธิบดีสามารถเสนอ
           ร่างกฎหมายที่จะมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐ และนำไปผ่านการออกเสียง

           ประชามติแทนการผ่านรัฐสภาได้ เดอโกลจึงตีความว่าการเปลี่ยนวิธีการเลือกประธานาธิบดี
           ดังกล่าวนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐ และนำร่างกฎหมายไปผ่านการออกเสียง
           ประชามติ ซึ่งผลปรากฏว่าประชาชนให้ความเห็นชอบ

                 การดำเนินการดังกล่าวของเดอโกลส่งผลให้สมาชิกรัฐสภาบางส่วนไม่พอใจเนื่องจาก

           การเปลี่ยนที่มาของประธานาธิบดีไม่อาจถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐ และ
           เห็นว่าการเปลี่ยนวิธีการเลือกประธานาธิบดีจะต้องกระทำโดยผ่านกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติม
           รัฐธรรมนูญเท่านั้น จึงได้มีการนำประเด็นดังกล่าวร้องต่อคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ เพื่อให้
           วินิจฉัยว่าการใช้อำนาจดังกล่าวไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

           แต่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญกลับวินิจฉัยว่า คณะตุลาการรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจดังกล่าว
           เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยความชอบด้วย
    สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 3   รัฐธรรมนูญของร่างกฎหมายเท่านั้น และไม่อาจมีอำนาจวินิจฉัยร่างกฎหมายที่ได้รับความเห็นชอบ

           จากประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยมาแล้วได้ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คณะตุลาการ

           รัฐธรรมนูญจะไม่วินิจฉัยสิ่งที่ประชาชนได้ตัดสินใจมาแล้วนั่นเอง
   191   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201