Page 195 - kpiebook65043
P. 195
สรุปการประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23 195
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
ฝ่ายบริหาร และศาลมาอยู่ใต้อาณัติของรัฐสภา หรือก็คือ มีอำนาจตามกฎหมายเท่าที่รัฐสภา
กำหนด และเกิดหลักที่ว่า กฎหมายใด ๆ ที่รัฐสภาตราขึ้นมีสถานะสูงกว่ากฎหมายที่มาจาก
แหล่งอื่น ๆ (ที่มักถูกเรียกว่าหลัก Supremacy of Parliament) ส่งผลให้การใช้พระราชอำนาจ
ของพระมหากษัตริย์ผ่านฝ่ายบริหาร (Prerogative Power) กลายเป็นอำนาจที่อยู่ใต้รัฐสภา
ด้วยเช่นกัน ภาพสะท้อนตรงนี้ทำให้การใช้อำนาจของฝ่ายบริหารไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามไม่ถูก
มองว่าเป็นอำนาจพิเศษ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่ว่าฝ่ายบริหารจะใช้อำนาจในฐานะ
ฝ่ายปกครอง หรือใช้อำนาจทางการเมืองในลักษณะที่เป็นการกระทำทางรัฐบาล ก็ไม่ถูกมองว่า
เป็นสิ่งที่พิเศษที่องค์กรอื่นใดจะเข้ามาแตะต้องหรือก้าวล่วงไม่ได้ เมื่อการใช้อำนาจของรัฐบาล
ไม่มีพื้นที่พิเศษนี้ ก็ทำให้ฝ่ายตุลาการหรือศาลสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ว่าการใช้อำนาจของ
ฝ่ายบริหารสอดคล้องกับขอบเขตของพระราชบัญญัติที่รัฐสภาได้ตราขึ้นเพื่อให้อำนาจไว้หรือไม่
และเมื่อศาลใช้อำนาจนี้ ก็จะไม่ค่อยเกิดการตั้งคำถาม เพราะโดยบริบททางประวัติศาสตร์
ทางการเมืองของอังกฤษ ฝ่ายบริหารไม่ได้มีปริมณฑลพิเศษในเรื่องการใช้อำนาจอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นดังกล่าวนี้มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือ กรณีที่ศาลได้วินิจฉัย
มีผลไปในทางตรงข้ามกับเสียงประชามติที่ยุติโดยประชาชนในกรณีของการออกเสียงเพื่อออก
จากสหภาพยุโรปที่เรียกว่า “Brexit” ใน ค.ศ. 2016 โดยได้มีการทำประชามติกันก่อนแล้วว่า
ประชาชนเห็นชอบด้วยกับการให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแต่จะต้องไป
ตรากฎหมายเป็นการภายในให้เรียบร้อยก่อน และรัฐบาลก็ตัดสินใจเลือกใช้อำนาจเฉพาะของ
ฝ่ายบริหาร ซึ่งก็คือการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารในฐานะรัฐบาลเหมือนการทำหนังสือสัญญา
ระหว่างประเทศอย่างหนึ่งในการออกจากการเป็นสมาชิกแทนที่จะขอความยินยอมของรัฐสภา
ด้วยการตราพระราชบัญญัติก่อน และฝ่ายรัฐสภาก็นำเรื่องนี้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาล
โดยประเด็นที่เป็นการโต้แย้งหลักก็คือว่า การออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปนั้น
ใช้อำนาจอะไรกันแน่
และแม้ว่าการตัดสินใจของรัฐบาลในกรณีดังกล่าวนั้นจะมีลักษณะเป็นการกระทำทาง
รัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการกระทำทางรัฐบาลที่สอดคล้องกับมติของมหาชน แต่ศาลฎีกาของ
อังกฤษ (Supreme Court) ก็ได้ตัดสินว่า การออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปมีผลทำให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐธรรมนูญอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีผลเป็นการยกเลิก
สิทธิเสรีภาพของประชาชนบางอย่างที่ได้รับการรับรองไว้ตามกฎหมายของสหภาพยุโรป
เมื่อเรื่องดังกล่าวสำคัญ ฝ่ายบริหารจึงไม่สามารถใช้อำนาจเฉพาะที่เป็นการกระทำทางรัฐบาล
หรืออ้างเสียงของประชาชนได้ ดังนั้น ในเมื่อเรื่องดังกล่าวจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ
ของประชาชน การขอความยินยอมจากตัวแทนของประชาชนจึงเป็นวิธีที่ถูกต้อง ดังนั้น
กรณีนี้ รัฐบาลจะต้องขอความยินยอมจากรัฐสภาโดยการตราพระราชบัญญัติเสียก่อน
แต่ในกรณีของประเทศฝรั่งเศสนั้นแตกต่างกัน โดยรวินท์ได้พยายามชี้ให้เห็นว่า สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 3
หลังการปฏิวัติใน ค.ศ. 1789 ประเทศฝรั่งเศสก็มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยสลับกับ