Page 192 - kpiebook65043
P. 192

192  สรุปการประชุมวิชาการ
           สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
         ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


                 จากตรงนี้ เท่ากับโลกได้เริ่มตั้งคำถามต่อการปล่อยให้ฝ่ายการเมืองตีความรัฐธรรมนูญ
           กันเอง แม้กระทั่งเป็นฝ่ายการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรงอย่างฝ่าย
           นิติบัญญัติก็ตาม ว่ากลายเป็นการปล่อยให้องค์กรที่ถูกรัฐธรรมนูญสถาปนาขึ้นอยู่สูงกว่า
           รัฐธรรมนูญได้หรือไม่ เพราะเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่องค์กรเหล่านั้นจะวินิจฉัยว่าตนเองใช้

           อำนาจขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ และต่อมาแนวคิดนี้ก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่วโลกตั้งแต่
           หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา


           การกำเนิดของตุลาการภิวัตน์ในประเทศไทย


                 จากคดี Marbury V. Madison ของสหรัฐอเมริกา ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
           ประเทศไทยก็ได้เกิดคดีในลักษณะดังกล่าวขึ้น แต่จะต้องเข้าใจก่อนว่า ตั้งแต่การประกาศใช้
           รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

           ฉบับแรกของประเทศไทยเป็นต้นมา รัฐธรรมนูญได้บัญญัติมาโดยตลอดว่า “ท่านว่า
           สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสิทธิเด็ดขาดในการตีความแห่งรัฐธรรมนูญนี้”
                                                                                            3
           ซึ่งหมายความว่า สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่จะสามารถตีความรัฐธรรมนูญแล้ววินิจฉัยว่า
           องค์กรตามรัฐธรรมนูญใดใช้อำนาจเกินขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดรวมถึงการวินิจฉัยด้วยว่า

           กฎหมายที่ฝ่ายนิติบัญญัติตราขึ้นนั้น ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่

                 อย่างไรก็ตาม จรัญได้เล่าข้อเท็จจริงต่อมาว่า หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ได้เกิดคดี
           “อาชญากรสงคราม” ขึ้น โดยในขณะนั้นจะมีการจับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในฐานะ
           รัฐบาลที่ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรขึ้นศาลเพื่อวินิจฉัยคดีอาชญากรสงคราม

           แต่รัฐสภาในขณะนั้นก็ได้ตราพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พ.ศ. 2488 ขึ้น เพื่อต่อรอง
           กับประเทศที่ชนะสงครามว่าจะขอให้จอมพล ป. ถูกพิพากษาคดีในประเทศไทยแทน โดยจะใช้
           พระราชบัญญัติที่ตราขึ้นดังกล่าวในการลงโทษจอมพล ป. อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีได้ขึ้นสู่

           ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2489 วินิจฉัยว่า เมื่อคดีมาถึงศาลแล้ว
           ศาลจะต้องตีความกฎหมายที่จะใช้ในการตัดสินคดี และถ้าหากศาลเห็นว่ากฎหมายที่จะใช้
           พิพากษาคดีนั้นขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ ศาลก็ไม่อาจใช้กฎหมายดังกล่าวมาตัดสินคดีได้
           ในเมื่อพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม ฯ ดังกล่าวตราขึ้นหลังจากที่จอมพล ป. ได้กระทำ
           ความผิดฐานอาชญากรสงคราม จึงไม่อาจใช้กฎหมายดังกล่าวเอาผิดกับจอมพล ป. ได้

           เนื่องจากจะกลายเป็นการใช้กฎหมายให้มีผลย้อนหลังเป็นโทษทางอาญาซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ
                                                                                            4
    สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 3   ไม่สามารถบังคับใช้แก่คดีได้
           นับเป็นครั้งแรกที่ศาลยุติธรรมเข้าไปพิพากษาซึ่งมีผลให้กฎหมายที่ตราโดยฝ่ายนิติบัญญัติ






               3
                 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 มาตรา 62


                 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2489
               4
   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197