Page 188 - kpiebook65043
P. 188
1 สรุปการประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ดุลอำนาจของฝ่ายตุลาการ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเมืองได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไป นั่นคือ หลายประเทศได้เกิดการ
ตั้งข้อสงสัยต่อฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ว่า แม้ว่าจะถือว่ารัฐธรรมนูญ
เป็นบทบัญญัติลายลักษณ์อักษรที่มีค่าบังคับสูงสุดในรัฐ แต่ถ้าหากฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็น
ฝ่ายนิติบัญญัติหรือฝ่ายบริหาร ได้กระทำการที่ล่วงละเมิดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เช่น
ฝ่ายบริหารอาจใช้อำนาจเกินขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ หรือรัฐสภาอาจตรากฎหมายที่มี
ลักษณะขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ เช่นนี้ องค์กรใดจะทำหน้าที่ตรวจสอบ จริงอยู่ว่าแรกเริ่ม
ที่หลายประเทศในโลกเริ่มมีรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร หรือยุคเริ่มแรกที่หลายประเทศ
กำลังก้าวเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย การตอบคำถามของเรื่องนี้อาจจะเป็นว่า
“ให้ฝ่ายการเมืองตรวจสอบถ่วงดุลกันเอง” หรือก็คือให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารตรวจสอบ
กันเองตามกลไกของระบบรัฐสภาหรือระบบประธานาธิบดี แต่เมื่อเกิดกรณีการละเมิด
สิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในประเทศเยอรมนีซึ่งมีการใช้อำนาจ
รัฐสภาตรากฎหมายไปในทางทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อีกทั้งหลายประเทศยังเริ่มเกิด
คำถามด้วยว่าถ้าหากเกิดกรณีที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติเป็นพวกเดียวกันแล้ว (และเกิด
ขึ้นได้ง่ายมากโดยเฉพาะประเทศที่ใช้ระบบรัฐสภาที่ให้รัฐบาลมาจากเสียงข้างมากของรัฐสภา)
เช่นนี้ จะเกิดการตรวจสอบได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ หลายประเทศจึงเริ่มเกิดองค์กรใหม่ที่เรียกว่า
“ศาลรัฐธรรมนูญ” หรือองค์กรอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากันแต่เรียกชื่ออย่างอื่น เช่น “คณะตุลาการ
รัฐธรรมนูญ” เหมือนอย่างในประเทศฝรั่งเศส แต่องค์กรเหล่านี้ก็มีจุดหนึ่งที่เหมือนกัน คือ
ทำหน้าที่ “ควบคุมความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” ของฝ่ายการเมือง
อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นขององค์กรตุลาการที่มีลักษณะการให้ฝ่ายตุลาการเข้าไปตัดสิน
คดีเกี่ยวกับการเมืองนี้ ได้ก่อให้เกิดวิวัฒนาการที่แตกต่างกันไปในหลายประเทศ สำหรับ
ประเทศไทยเองนั้น รัฐธรรมนูญฉบับแรกที่กำหนดให้มีศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครอง
ทำหน้าที่ตัดสินคดีทางกฎหมายมหาชนได้เริ่มขึ้นตั้งแต่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และประเด็นเกี่ยวกับกรณีที่ศาลทั้งสองศาลนี้เข้าไป
วินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเมืองก็ได้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา
ท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการหลาย ๆ ท่าน ก็ได้มีการยกตัวอย่างกรณีศึกษา
ต่างประเทศมากมายทั้งในทางที่จำกัดอำนาจของฝ่ายตุลาการ หรือขยายขอบอำนาจของฝ่าย
ตุลาการ ในห้องย่อยนี้ ชมพูนุท ตั้งถาวร นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักส่งเสริมวิชาการ
รัฐสภา สถาบันพระปกเกล้า ในฐานะผู้ดำเนินรายการกลุ่มย่อยที่ 3 เรื่อง “ตุลาการภิวัตน์ :
สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 3 เพื่อแลกเปลี่ยนในประเด็นดังกล่าว รวมทั้งฉายภาพให้เห็นว่า ในปัจจุบัน ดุลอำนาจของฝ่าย
อำนาจตุลาการในการตัดสินคดีเกี่ยวกับการเมือง” จะขอนำทุกท่านเข้าสู่การประชุมกลุ่มย่อยที่ 3
ตุลาการในการตัดสินคดีเกี่ยวกับการเมืองนั้น มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางใด และมีกรณีศึกษา
เกี่ยวกับพัฒนาการในประเด็นดังกล่าวที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาสู่การทบทวนการวางกรอบ
การใช้อำนาจตุลาการในการตัดสินคดีทางการเมืองภายใต้ภูมิทัศน์ทางการเมืองใหม่ของประเทศไทย