Page 201 - kpiebook65043
P. 201

สรุปการประชุมวิชาการ
                                                                               สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23  201
                                                                                   ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่


             สถานะของตนเอง และไม่ตัดสินหรือทำอะไรไปในทางที่จะทำให้ประชาชนต้องเสื่อมศรัทธา
             สอง การตัดสินคดีจะต้องไม่ล่าช้า เพราะความล่าช้าก็คือความอยุติธรรม และสาม อีกสิ่งหนึ่ง
             ที่จะต้องระมัดระวัง ก็คือ การตัดสินคดีด้วยความเป็นธรรม โดยจะต้องมีความเป็นอิสระ
             และเป็นกลาง โดยต้องยืนอยู่บนหลักการ เป็นอิสระ (Independent) คือต้องปราศจาก

             การแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง และสองต้องเป็นกลาง (Impartiality) คือจะต้องมีความเป็นกลาง
             ทางการเมืองในสังคมที่ซับซ้อนนี้ และสามต้องมีคุณธรรม (Integrity) คือจะต้องไม่ทุจริต

                   ที่สำคัญ จรัญเองยังได้สะท้อนภาพว่าการที่ฝ่ายตุลาการเข้ามาวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับ
             การเมืองนั้น ส่วนหนึ่งก็เกิดจากจุดอ่อนของฝ่ายการเมืองเองด้วย นั่นคือ ในหลายกรณีเสียง

             ของพรรคฝ่ายค้านไม่ได้รับการคุ้มครอง ทั้งที่พรรคฝ่ายค้านกำลังปกป้องสิทธิของคนบางกลุ่มอยู่
             หรือพยายามสิ่งที่ถูกต้อง แต่กลับสู้เสียงข้างมากในรัฐสภาไม่ได้ และอีกประการหนึ่งก็คือ
             การทุจริตในฝ่ายการเมือง ดังนั้น ถ้าหากแก้ไขที่ฝ่ายการเมืองเองด้วย ก็อาจจะทำให้

             ฝ่ายตุลาการเข้ามาวินิจฉัยคดีทางการเมืองน้อยลง

                   และในประเด็นที่ใกล้เคียงกันนี้ เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง ก็ได้สะท้อนภาพว่า
             แม้ว่าปัจจุบันจะมีการวิพากษ์วิจารณ์หลายอย่างว่าฝ่ายตุลาการยุ่งเกี่ยวกับคดีทางการเมือง
             มากเกินไป แต่ตนก็คิดว่าการยุบศาลหรือการเข้าไปยุ่งกับอิสระของฝ่ายตุลาการก็ไม่ใช่ทางออก

             ที่พึงปรารถนาเช่นกัน การมีอยู่ของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิทักษ์ความเป็นกฎหมายสูงสุดของ
             รัฐธรรมนูญนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับ แต่สิ่งที่จะต้องปรับเพื่อให้ไม่เกิดการใช้อำนาจตุลาการ
             ก้าวก่ายกับคดีทางการเมืองมากเกินไปก็คือ ศาลเองก็ต้องใช้อำนาจของตนเองด้วย
             ความระมัดระวังในการเข้าไปวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและเคารพการใช้อำนาจของ

             องค์กรอื่น โดยถ้าหากเห็นว่าประเด็นใดเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยแท้ ก็อาจคืนให้
             ฝ่ายการเมืองไปวินิจฉัยกันเอง ส่วนฝ่ายการเมืองนั้น เมื่อเห็นว่าประเด็นใดเป็นประเด็นทาง
             การเมือง ก็ควรแก้ปัญหาด้วยวิธีการทางการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ไม่ควรทำเรื่อง
             การเมืองให้เป็นเรื่องกฎหมายโดยนำข้อพิพาทนั้นขึ้นสู่ศาล ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแพ้ชนะ

             แต่เพียงอย่างเดียว แต่ไม่อาจหาทางออกที่สมประโยชน์ทั้งสองฝ่ายด้วยการเจรจาต่อรองได้


             การโต้ตอบของประชาชนและฝ่ายการเมือง ในเมื่อเรื่องการเมือง
             กลายเป็นเรื่องของกฎหมายมากเกินไป


                   ในหลายประเทศก็มีตัวอย่างการโต้กลับของฝ่ายการเมืองในกรณีที่ฝ่ายตุลาการได้เข้ามา
             วินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเมืองมากเกินไป โดยอาจเกิดจากกรณีที่ฝ่ายตุลาการเข้าไปวินิจฉัยคดี
             ที่ประชาชนมีความเห็นว่าเรื่องดังกล่าวนี้ ศาลไม่ควรเข้ามาตัดสิน แต่ควรให้ประชาชนหรือ

             รัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนตัดสินใจมากกว่า โดย กล้า สมุทวณิช ก็ได้ยกตัวอย่าง           สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 3
             กรณีที่เกิดการโต้กลับโดยฝ่ายการเมือง โดยอาจโต้กลับด้วยกลไกที่รัฐธรรมนูญกำหนด เช่น
             ฝ่ายนิติบัญญัติแก้ไขกฎหมายกำหนดเขตอำนาจของศาล อย่างกรณีที่มีการขอแก้ไขเพิ่มเติม
   196   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206