Page 67 - kpiebook65022
P. 67
ทรัพยากรทางทะเลและทรัพยากรประมงชายฝั่งเสื่อมโทรมลงมาก ท าให้การประมงชายฝั่ง ประมงพื้นบ้าน
ในพื้นที่ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันรวมตัวกันปกป้องพื้นที่ 3 ไมล์ทะเล ท าให้เกิดกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านใน
พื้นที่ตั้งแต่ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ส าหรับทรัพยากรป่าไม้ มีกรณีของ
กะเหรี่ยงบางกลอยที่ถูกอพยพออกจากที่ดินที่เคยอยู่ อันเนื่องมาจากโครงการทวงคืนผืนป่า อันเป็นนโยบายที่
ต่อเนื่องมาจากช่วงยุคก่อนหน้านี้ และยังมีการเคลื่อนไหวกรณีทรัพยากรแร่โปรแตสในภาคอีสานด้วย
(ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 [สัมภาษณ์], 6 พฤษภาคม 2564) เป็นต้น
ส าหรับประเด็นพลังงาน ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า ในช่วงนี้มีการตื่นตัวด้านพลังงานซึ่งเห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่ามีการเคลื่อนไหว 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เคลื่อนไหวเพื่อให้ได้พลังงาน เช่น ให้พลังงานเป็นของรัฐไม่ให้
เอกชนสัมปทานโดยไม่ให้ความส าคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน (ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 [สัมภาษณ์], 6 พฤษภาคม 2564)
หรือการเคลื่อนไหวโซล่าเซลล์ที่เริ่มน ามาปฏิบัติจริงหลังปี พ.ศ.2545 (ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 [สัมภาษณ์], 3 เมษายน
2564) กับอีกกลุ่มคือผู้ได้รับผลกระทบจากประเด็นพลังงาน เช่น กรณีชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการขุดเจาะ
ปิโตรเลียมในภาคอีสาน ซึ่งการขุดเจาะก็มีมานานแล้วในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบนที่จังหวัดสุโขทัย
และจังหวัดก าแพงเพชร (ผู้ทรงคุณวุฒิ 11 [สัมภาษณ์], 6 พฤษภาคม 2564) ประเด็นการปรับตัวเรื่อง
การเกษตรที่จะน าไปสู่ความยั่งยืน ที่ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า หลังปี พ.ศ.2545 สิ่งแวดล้อมหลายเรื่องเริ่มน าไปสู่
การปฏิบัติจริง ๆ เช่นการเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรรมธรรมชาติ หรือไร่หมุนเวียน ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงปี พ.ศ.
2535 ยังเป็นเพียงแนวคิดและไม่ได้มีความเคลื่อนไหวในเชิงการปฏิบัติการ (ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 [สัมภาษณ์],
3 เมษายน 2564)
ส าหรับประเด็นการเคลื่อนไหวสุดท้ายที่พบในช่วง พ.ศ.2540 เป็นต้นมาคือเรื่องของยุติธรรม
สิ่งแวดล้อม ที่พบว่า รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2540 ได้ให้เจตนารมย์สิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมใน
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มองค์กร และกลไกที่เปิดช่องทางการเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยในส่วน
เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติว่าด้วยเรื่องของการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน ท าให้เกิดความตื่นตัวของภาคพลเมืองพื้นฐานในการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ท าให้เกิดระบบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม สิทธิในการเรียกร้อง สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการ
ตื่นตัวของภาคประชาสังคม (ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 [สัมภาษณ์], 8 กุมภาพันธ์ 2564; ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 [สัมภาษณ์],
8 กุมภาพันธ์ 2564)
ส าหรับประเด็นด้านกลุ่มองค์กรในช่วงปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป พบว่า ประชาชนมีความตื่นตัวและ
องค์กรภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นจ านวนมากในช่วงนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า ประชาชน
ในเขตเมืองเริ่มให้ความสนใจ และให้ความส าคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ท าให้
การเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมได้รับการยกระดับมากขึ้น และการตื่นตัวของภาคประชาสังคมมีความเข้มแข็ง
มากขึ้นจนเริ่มมีกลุ่มประชาสังคมหรือกลุ่ม NGOs เกิดขึ้นมากมาย (ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 [สัมภาษณ์], 8 กุมภาพันธ์
2564; ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 [สัมภาษณ์], 8 กุมภาพันธ์ 2564; ผู้ทรงคุณวุฒิ 13 [สัมภาษณ์], 16 เมษายน 2564)
ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น การใช้สิทธิในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ อย่างกฎหมายว่าด้วย
ป่าชุมชน (ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 [สัมภาษณ์], 8 กุมภาพันธ์ 2564; ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 [สัมภาษณ์], 8 กุมภาพันธ์ 2564)
ที่ยังคงมีความต่อเนื่องมาจากช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผู้ให้สัมภาษณ์ท่านหนึ่งเห็นว่าการของกลุ่มต่าง ๆ นับ
จากปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน ไม่ค่อยมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเพราะภาคประชาชนมีการเคลื่อนไหว
ตลอดเวลาจนไม่พบความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ที่เห็นชัดคือ กระแสการขับเคลื่อนระดับชาติ
เริ่มลดลงไปสู่การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่มากขึ้น (ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 [สัมภาษณ์], 3 เมษายน 2564)
54