Page 22 - kpiebook65022
P. 22
การจัดการประเด็นปัญหาต่าง ๆ ทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับพื้นที่หรือท้องถิ่นนั้น ๆ
(Hale, 2020, p. 204)
เช่นเดียวกับ Prakash and Bernauer (2020, p. 1128) เห็นว่า การเมืองสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่อง
เกี่ยวกับการส ารวจความคิดเห็นของประชาชนในการร่วมกันจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมกับรัฐ ทั้งนี้ หาก
ภาคประชาชนหรือพลเมืองมีความเข้มแข็ง รวมตัวกันเป็นปึกแผ่น ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและ
จัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นได้
ในเชิงการด าเนินการและผลกระทบ มีนักวิชาการหลายท่านให้ความเห็นไว้มากในส่วนนี้ เช่น
Vanhala กล่าวว่า การเมืองสิ่งแวดล้อมเป็นการจัดการเรื่องเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการ
ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งมีความยุ่งยากซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับนโยบายต่าง ๆ ของรัฐ โดยการจัดการในแต่ละ
ประเด็นปัญหาจ าเป็นต้องอาศัยการจัดการของรัฐ ซึ่งการจัดการปัญหาแต่ละประเด็นล้วนส่งผลกระทบต่อผู้ที่
เกี่ยวข้องในประเด็นนั้น ๆ ทั้งสิ้น (Vanhala, 2017, p. 95) อีกทั้ง Hale กล่าวว่า การเมืองสิ่งแวดล้อมเป็นการ
จัดการสิ่งแวดล้อมประสบปัญหา และได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านมลพิษ ความเสียหายต่อสิ่งมีชีวิตใน
ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติ และประชาชนที่อาศัยในพื้นที่นั้น ๆ ตลอดจนความท้าทายเชิงระบบทางด้าน
การเมือง (Hale, 2020, p. 204)
Simpson กล่าวถึงการเมืองสิ่งแวดล้อมว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองและสิ่งแวดล้อม โดยรัฐมีการ
เปิดรับฟังความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหา
ด้านสิ่งแวดล้อม และสามารถน าไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ในที่สุด (Simpson, 2020, p. 80) ส่วน Dimitrov
ให้ความหมายคล้ายกัน แต่ขยายขอบเขตการจัดการหมายรวมไปถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับโลก โดย
กล่าวว่า การเมืองสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของการจัดการทางด้านนโยบายของรัฐที่สามารถหาแนวทางการแก้ไข
ปัญหาด้านการเมืองสิ่งแวดล้อม ประกอบกับ การสร้างความร่วมมือ เจรจาต่อรองด้านสิ่งแวดล้อมกับประเทศ
ต่าง ๆ โดยมีข้อตกลงความร่วมมือทางด้านนโยบายระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก
(Dimitrov, 2020, p. 627)
โดยสรุป การเมืองสิ่งแวดล้อมในความหมายของการวิจัยครั้งนี้ หมายถึง ปฏิสัมพันธ์ในการร่วมแบ่งปัน
อ านาจตัดสินใจ และร่วมรับประโยชน์และผลกระทบจากการจัดการสิ่งแวดล้อมของภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม
ทั้งในรูปแบบทางการ เช่น การเข้าร่วมการตัดสินใจทางนโยบายที่รัฐจัดขึ้นให้ภาคส่วนที่หลากหลายได้มีส่วนร่วม
หรือแบบไม่เป็นทางการที่ภาคประชาชนได้เคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการตัดสินใจทางสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เป็นไปเพื่อ
ประโยชน์ของสังคมส่วนรวมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากความหมายนี้อาจพออนุมานขอบเขตการศึกษา
การเมืองสิ่งแวดล้อมได้ว่าเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจทางสิ่งแวดล้อม ตัวแสดงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทาง
สิ่งแวดล้อม และในระหว่างการตัดสินใจ จนกระทั่งรับผลกระทบที่เกิดขึ้นภาคส่วนต่าง ๆ มีปฏิสัมพันธ์กัน
อย่างไรบ้าง อย่างไรก็ดี ผู้วิจัยส ารวจเพิ่มว่า ขอบเขตของการเมืองสิ่งแวดล้อมอาจมีการศึกษาในประเด็นใดได้บ้าง
และพบว่า การเมืองสิ่งแวดล้อมอาจมีขอบเขตในเชิงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เชิงระดับการเมืองสิ่งแวดล้อม
เชิงตัวแสดงที่เกี่ยวข้อง และเชิงโครงสร้างและสถาบัน
ในขอบเขตเชิงประเด็น การศึกษาอาจมีขอบเขตตามทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เช่น ประเด็นสิ่งแวดล้อม
สรุปโดย Fahey and Pralle จ านวน 9 ประเด็น ได้แก่ มลพิษ พลังงาน โลกร้อน ระบบนิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติ
เกษตรกรรม ภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน ซึ่งพวกเขาได้ท าการศึกษา
9