Page 192 - kpiebook65022
P. 192
ชาวบ้านท าการประท้วงหลังจากถูกอพยพจากพื้นที่ที่ถูกประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนขึ้นมาที่
แม่สอด หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเคลื่อนไหวในท้องถิ่นที่
เชื่อมโยงกับทุนนิยมโลกด้วย กรณีนี้แสดงให้เห็นความต่อเนื่องของการเน้นพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงยุคนี้ยังคง
ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการตัดสินใจต่อการตัดสินใจพื้นที่ ซึ่งจะท าให้การเคลื่อนไหวของภาค
ประชาชนยังเป็นไปในลักษณะขัดแย้งกับภาครัฐ การมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐอาจไม่สอดคล้องกับการ
พัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งเรื่องโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ภาคใต้มีความยั่งยืนเพียงใด การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ
ตะวันออกหรือ EEC ก็ถูกตั้งค าถามเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบ SDGs ส่วนงานวิจัยเกี่ยวกับประเด็น
ความยั่งยืนที่พบมี 1 ชิ้น ได้แก่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรับผิดชอบในความหลากหลายทางชีวภาพของธุรกิจ
โรงแรม (นิศามาศ เลาหรัตนาหิรัญ, กฤช จรินโท, และบรรพต วิรุณราช, 2559) ศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผล
ต่อความรับผิดชอบในความหลากหลายทางชีวภาพของธุรกิจโรงแรม เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการปฏิบัติ
ส าหรับธุรกิจโรงแรมที่ให้ตระหนักถึงความส าคัญของความรับผิดชอบต่อทรัพยากร ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและ
ระบบนิเวศ ซึ่งถือว่าเป็นงานวิจัยที่ตอบโจทย์สามเสาหลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ สมดุลระหว่างเศรษฐกิจ
สังคม และสิ่งแวดล้อม (Elder and Olsen, 2019, p.70) อย่างไรก็ดี การศึกษานี้เป็นการศึกษาระดับย่อย
เฉพาะกลุ่มซึ่งยังไม่สอดคล้องในรายละเอียดข้อค้นพบจากการสัมภาษณ์ที่พบประเด็นการตัดสินใจทางนโยบาย
ที่ไม่น่าจะสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน และยังไม่ได้ควบรวมเอาทุกภาคส่วนเข้าไปสู่กระบวนการ
ตัดสินใจด้วย ซึ่งเป็นค าถามที่น่าสนใจต่อไปว่าการตัดสินใจพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศที่ส าคัญอย่าง EEC
หรือพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษได้มีการกระบวนการตามความหมายของการเมืองสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไร
เป้าหมายและแนวทางยังผลให้เกิดความสมดุล (Level of harmony) ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ
SDGs อย่างไร (Boas et al., 2016, p.459) และหากจะต้องมีการพัฒนาเศรษฐกิจในแบบเดียวกันนี้ รัฐบาล
และแต่ละภาคส่วนจะต้องท าอะไรอย่างไรเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน
ส าหรับประเด็นมลพิษสิ่งแวดล้อม ผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงเพียงเล็กน้อยว่า ยังมีความรุนแรงมากเช่นกัน
เช่น กรณีแม่เมาะ จังหวัดล าปาง แต่ไม่ได้มีการกล่าวถึงในรายละเอียดมากนัก เพราะเห็นว่ายังคงเป็นปัญหาที่
ต่อเนื่อง ขณะที่งานวิจัยการเมืองสิ่งแวดล้อมในประเด็นมลพิษ พบ 3 เรื่อง มีหนึ่งเรื่องที่สอดคล้องกับข้อค้นพบ
จากการสัมภาษณ์ ได้แก่ เรื่องบทบาททางการเมืองของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอ าเภอแม่เมาะต่อปัญหาด้าน
สิ่งแวดล้อม ในอ าเภอแม่เมาะ จังหวัดล าปาง (สินทบ มั่นคง, 2552) ที่ศึกษาเกี่ยวกับบทบาท ปัจจัย ปัญหา
และเสนอแนวทางส่งเสริมบทบาทการเมืองของกลุ่มอนุรักษ์แม่เมาะ ส่วนอีกสองเรื่องเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมใน
การจัดการน าเสียในล าคลองและจัดการขยะในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เรื่องการเมืองของการมี
ส่วนร่วมในการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น: กรณี โครงการคลองสวยน้ าใส (สุทธบท
ซื่อมาก, 2554) และเรื่องการน านโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปปฏิบัติ
วิเคราะห์ การจัดการขยะของเทศบาลและองค์การบริหารส่วนต าบล ในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัด
อ านาจเจริญ (ขวัญฤดี จันทิมา, 2557) นอกจากนี้ ยังพบงานวิจัยในประเด็นอื่น ได้แก่ เรื่องพรรคการเมืองไทย
กับนโยบายสิ่งแวดล้อม (ณัฐณภรณ์ เอกนราจินดาวัฒน์, 2558) ที่ศึกษาเกี่ยวกับการก่อตัวและก าหนดนโยบาย
ด้านสิ่งแวดล้อมในพรรคการเมืองไทย วิเคราะห์บทบาทพรรคการเมือง และผลการน านโยบายไปปฏิบัติของ
พรรคการเมืองไทย
ช่วงรัฐธรรมนูญ 2560 – 2564 พบการเคลื่อนไหวด้านทรัพยากรด้านป่าไม้และน้ า รวมทั้งยุติธรรม
สิ่งแวดล้อมที่ช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในสิ่งแวดล้อมมีความซับซ้อนและถูกจ ากัดมากขึ้น ส่วน
งานวิจัยที่พบมี 24 เรื่อง ซึ่งมีการท าวิจัยในขอบเขตที่มากกว่าข้อค้นพบที่ได้จากการสัมภาษณ์ กล่าวคือ
179