Page 197 - kpiebook65022
P. 197
ภาคพลเมืองที่ใช้ศึกษา ท าให้เห็นแนวทางการพัฒนาภาคประชาสังคมในแบบที่จับต้องได้ คือ มีการจัดท า
ข้อมูลเพื่อแสดงความเห็นคัดค้านก่อนการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม และมีการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมใน
ชุมชนที่ได้รับปัญหามลพิษอุตสาหกรรม โดยภาคประชาชนเอง
นอกจากนี้ จากการสัมภาษณ์และสนทนากลุ่มในประเด็นความส าเร็จด้านการเมืองสิ่งแวดล้อม
พบความส าเร็จมีทั้งในเชิงความร่วมมือและการคัดค้าน เช่น ประชาชนร่วมมือกับภาครัฐในโครงการที่ให้คนอยู่
ร่วมกันกับป่า การร่วมมือในพลังงานสีเขียวในพื้นที่ภาคใต้จังหวัดพังงาที่เริ่มต้นได้ส าเร็จ ความส าเร็จในเรื่อง
ของเกษตรอินทรีย์ซึ่งมีการลดใช้สารเคมีในภาคการเกษตรที่น าไปสู่ความยั่งยืน ส่วนความส าเร็จในเชิงคัดค้าน
เช่น การคัดค้านของภาคประชาชนที่ไม่ให้มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น การคัดค้านจากภาคประชาชนต่อการ
ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก เป็นต้น งานวิจัยไทยหลายชิ้นเป็นการถอดบทเรียนในเชิงการคัดค้านเกี่ยวกับ
นโยบายหรือโครงการด้านสิ่งแวดล้อม แต่ผลการศึกษาพบทั้งการขับเคลื่อนที่ประสบความส าเร็จและไม่ส าเร็จ
เช่น เรื่องพลวัตการเคลื่อนไหวและการต่อสู้เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล
(พนา ใจตรง และกนกวรรณ มะโนรมย์, 2557) ที่ศึกษาเกี่ยวกับพลวัตในการเคลื่อนไหวของชาวบ้านปากมูล
และวิเคราะห์แนวทางในการต่อสู้เพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนปากมูล พื้นที่จังหวัด
อุบลราชธานี พบว่าชาวบ้านปากมูลใช้กลยุทธ์ในการเคลื่อนไหวหลากหลายรูปแบบ เช่น เดินขบวนร้องทุกข์
การชุมนุมที่ยืดเยื้อ ใช้วาทกรรมช่วงชิงพื้นที่ทางสังคม ผลิตความรู้ผ่านงานวิจัยไทบ้าน ฯลฯ แต่ก็ยังไม่สามารถ
ต่อรองให้มีการเปิดประตูน้ าเขื่อนปากมูลอย่างถาวรได้ หรือ เรื่องขบวนการต่อต้านโครงการรัฐในภาคใต้:
วิกฤติหรือโอกาสด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชน (เบญจวรรณ อุปัชฌาย์, 2562) ที่ศึกษาเกี่ยวกับการเกิด
ขบวนการภาคประชาสังคมที่คัดค้านโครงการพัฒนาของรัฐในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล และ
จังหวัดกระบี่ พบว่า การเกิดขึ้นของภาคประชาสังคมที่ต่อต้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐในภาคใต้ 4
กลุ่ม ท าให้ประชาชนตระหนักถึงความเป็นประชาสังคมที่ถูกสร้างขึ้น และท าให้รู้ว่าภายใต้ความเป็นประชา
สังคมมีกฎกติกาในการควบคุมตนเอง และประชาสังคมที่เข้มแข็งได้กลายเป็นเครืองมือส าคัญในการตรวจสอบ
และวิจารณ์การท างานของรัฐที่ทรงพลัง แสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวการเมืองสิ่งแวดล้อมในเชิงการปฏิบัติ
จริง แม้ได้มีช่องทางให้แสดงออกหรือโครงการของรัฐที่ถูกคัดค้านต้องถูกพับไป ในการพิจารณาโดยทั่วไปแล้ว
เราอาจรับรู้ได้ว่าประสบความส าเร็จ ดังเช่นผู้ให้สัมภาษณ์กล่าวว่า มีความส าเร็จในการตั้งคณะกรรมการ
เศรษฐกิจหมุนเวียนหรือคณะกรรมการว่าด้วยเรื่องของความยั่งยืน ซึ่งยังเป็นเพียงการจัดตั้งเท่านั้นแต่ผู้ให้
สัมภาษณ์ก็เห็นว่าเกิดความส าเร็จขึ้นแล้ว แต่หากมีการศึกษาในเชิงลึกด้วยกรอบการวิจัยก็จะเห็นดังงานวิจัย
ชิ้นแรกที่ยกตัวอย่างมา ก็จะเห็นว่ายังมีปัจจัยอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางต่อการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม
6.2.2 เชิงวิธีการ
ส าหรับวิธีวิจัยที่พบในการศึกษาวิจัยการเมืองสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและต่างประเทศ มีความ
สอดคล้องกันว่าส่วนใหญ่ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ โดยงานวิจัยในไทยใช้การวิจัยแบบผสมผสานรองลงมา และ
น้อยที่สุดคือ การใช้วิธีวิจัยแบบเชิงปริมาณ ขณะที่งานวิจัยในต่างประเทศรองจากการวิจัยเชิงคุณภาพแล้ว
เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ตามมาด้วยการวิจัยแบบผสมผสาน อย่างไรก็ดี ไม่ว่างานวิจัยการเมืองสิ่งแวดล้อมทั้ง
ต่างประเทศและในประเทศไทย จะมีวิธีการวิจัยแบบใดมากกว่ากัน แต่สิ่งที่ผู้วิจัยเห็นว่ามีความน่าสนใจ
มากกว่า คือ ความหลากหลายของวิธีการที่ใช้
หากเปรียบเทียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ วิธีเชิงคุณภาพที่นักวิจัยไทยใช้อยู่ในวงจ ากัดของระเบียบวิธี เช่น
วิจัยเอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก การศึกษาเรื่องเล่า วิเคราะห์วาทกรรมแนววิพากษ์ สนทนากลุ่ม สังเกตการณ์
184