Page 45 - kpiebook65021
P. 45

โครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านสิทธิและการมีส่วนร่วมแก่ประชาชน:  กรณีศึกษาการพัฒนานโยบายจากภาคประชาชน จังหวัดจันทบุรี





              เข้าใจถึงแนวคิดและหลักการของการพัฒนานโยบายสาธารณะร่วมกัน โดยทุกภาคส่วน เช่น ภาคชุมชน ภาค
              ธุรกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาท าความเข้าใจถึงสิ่งที่ควรด าเนินการร่วมกัน 2) ความร่วมมือของ

              หน่วยงานรับนโยบาย เป็นการสร้างความเข้าใจกับฝ่ายการเมืองและฝ่ายเจ้าหน้าที่ประจ าของหน่วยงานที่จะ
              น านโยบายไปปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการท างานที่เป็นหุ้นส่วนกัน 3) หน่วยงานรับนโยบายเป็นผู้จัด ในกระบวนการ
              จัดเวทีนโยบายสาธารณะ หน่วยงานที่รับนโยบายไปปฏิบัติเป็นผู้ด าเนินกระบวนการเองทั้งหมด ทั้งการออก

              หนังสือเชิญ การด าเนินการสถานที่ ประสานงาน 4) ภาวะผู้น าของผู้บริหารท้องถิ่น ที่มีแนวคิดในการพัฒนา
              นโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ส่งผลต่อการจัดท ากระบวนการพัฒนานโยบายสาธารณะให้ส าเร็จ 5)

              หน่วยงานมีความต้องการพัฒนา คือหน่วยงานมีประเด็นสาธารณะที่ต้องการพัฒนาเช่นกันแต่ยังขาดพลังจาก
              ภาคประชาชนที่จะร่วมกันพัฒนาข้อเสนอนั้น 6) ผู้เข้าร่วมมีพลเมืองที่กระตือรือร้น หากผู้เข้าร่วมกระบวนการ

              มีความกระตือรือร้นสูงก็จะมีแนวโน้มในการเข้าร่วมและท าให้การพัฒนานโยบายสาธารณะนั้นส าเร็จ และ 7)
              มีหน่วยงานที่รับนโยบายไปปฏิบัติ คือข้อเสนอการพัฒนาที่ได้ออกมานั้นมีหน่วยงานที่จะน าไปด าเนินการต่อจึง

              จะถือว่ากระบวนการพัฒนานโยบายนั้นส าเร็จ

                     ส าหรับปัจจัยภายนอก ได้แก่ 1) กระบวนการจัดเวที เป็นกระบวนการที่เอื้อให้เกิดการมีส่วนร่วม มี
              การใช้เทคนิควิธีการ ตลอดจนผู้เอื้ออ านวยกระบวนการที่ท าให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจในการเสนอทิศทางการ

              พัฒนา และ 2) บทบาทขององค์กรวิชาการ สามารถท าหน้าที่สนับสนุนกระบวนการนโยบายสาธารณะ โดย
              สร้างความไว้วางใจและเอื้อกระบวนการให้แต่ละภาคส่วนพัฒนาข้อเสนอนโยบายร่วมกัน รวมทั้งสนับสนุนใน
              การร่างข้อเสนอนโยบายต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ได้ด้วย


                     งานวิจัยดังกล่าวเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบาย หากแต่ถ้าพิจารณา
              ในเชิงปัจจัยที่สรุปมานี้สามารถน าไปด าเนินการได้ในระดับท้องถิ่น หากจะพัฒนานโยบายสาธารณะจากภาค
              ประชาชนในระดับจังหวัดตามกรอบการศึกษาครั้งนี้ จึงกว้างมากกว่า ตัวอย่างการศึกษาดังกล่าว จึงอาจ

              น ามาใช้เป็นแนวทางวิจัยครั้งนี้ได้บางส่วน เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าผลลัพธ์
              จากกระบวนการมีส่วนร่วมจะน าไปสู่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย ด้วยอุปสรรคส าคัญหลายประการ ได้แก่

              การเมืองที่เกิดขึ้นในกระบวนการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แม้ว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนจะเป็นแนวทางที่มี
              การพัฒนามาเป็นเวลานาน แต่กับกระบวนการทางการเมืองของการตัดสินใจขั้นสุดท้าย การมีส่วนร่วมของ

              ประชาชนยังไม่ไปถึงขั้นนั้น และผลจากเวทีนโยบายดูเหมือนจะถูกเพิกเฉยในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย เพราะถูก
              แทรกแซงโดยอ านาจทางการเมืองได้ง่าย (Emery et al., 2015)

                     อุปสรรคประการต่อมา ได้แก่ ผู้ตัดสินใจทางนโยบาย เหตุเพราะผู้ก าหนดนโยบายนั้น โดยทั่วไปแล้ว

              การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับคุณค่าและความเชื่อ ผู้ก าหนดนนโยบายจะใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการตัดสิน
              ส่วนความเชื่ออาจเปลี่ยนแปลงได้โดยการใส่ข้อมูลใหม่ ดังนั้น ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้และการให้มุมมองก็อาจ

              เปลี่ยนความคิดของผู้มีอ านาจตัดสินใจ อาจกล่าวได้ว่าการตัดสินใจคือการใช้วิจารณญาณ ความเชื่อและ
              ค่านิยมของผู้ก าหนดนโยบายมักพบถูกน ามาใช้ในการตัดสินใจด้านนโยบาย (Kettl & Fesler, 2009;
              Winterfeldt, 2013; Emery et al., 2015)








                                                          20
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50