Page 46 - kpiebook65021
P. 46
โครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านสิทธิและการมีส่วนร่วมแก่ประชาชน: กรณีศึกษาการพัฒนานโยบายจากภาคประชาชน จังหวัดจันทบุรี
ปัจจัยต่อมา ได้แก่ หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดพื้นที่นโยบาย จากการศึกษาของ De Vente
et al. แสดงให้เห็นว่า กระบวนการมีส่วนร่วมที่จัดขึ้นและอ านวยความสะดวกโดยหน่วยงานของรัฐมักจะได้รับ
การยอมรับจากรัฐบาล ผลลัพธ์จากเวทีเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะน าไปใช้ในการตัดสินใจมากกว่าการจัดเวทีโดย
ผู้ที่ไม่ใช่รัฐ แต่เวทีนโยบายจากภาครัฐมักให้ความรู้และข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมน้อย ได้รับความไว้วางใจจากผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ไม่มากนัก และยังมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าเวทีที่จัดโดยภาคส่วนอื่น กล่าวคือ เวทีนโยบาย
สาธารณะที่อ านวยความสะดวกโดยหน่วยงานที่ไม่ใช่รัฐ มีแนวโน้มที่จะสะท้อนถึงความเท่าเทียมทางสังคม
และได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย (De Vente, 2016) ขณะเดียวกัน ก็มักจะถูกละเลย
ไม่ได้น าไปก าหนดเป็นนโยบายเท่ากับเวทีที่จัดโดยหน่วยงานรัฐ
ประการสุดท้าย ผลลัพธ์จากการจัดเวทีนโยบายจะเป็นผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของเวทีนโยบาย
ระดับของเวทีที่กว้างกว่ามักจะได้รับการยอมรับว่า เป็นข้อมูลเชิงนโยบาย เวทีขนาดเล็กค่อนข้างได้รับ
ความสนใจน้อยกว่าจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในวงกว้าง เช่น ภาคประชาสังคม แต่เวทีขนาดเล็กที่จ ากัดกลุ่ม
ผู้เข้าร่วมบางครั้งกลับมีแนวโน้มมีผลต่อการตัดสินใจในระดับมหภาค (Lehtonen, 2010) อย่างไรก็ตาม ไม่ได้
หมายความว่าเวทีขนาดเล็กจะไม่มีประโยชน์ เพราะอาจใช้เป็นแนวทางส าหรับการพิจารณาของสาธารณะ
ในวงกว้าง เช่น ผลของการประชุมสมัชชาพลเมืองบริติชโคลัมเบียเกี่ยวกับการปฏิรูปการเลือกตั้ง ซึ่งใช้เป็น
ข้อเสนอส าหรับการลงคะแนนเพียงครั้งเดียว เป็นตัวอย่างของกระบวนการทางนโยบายขนาดเล็กที่น าไปสู่การ
ตัดสินใจได้ (Niemeyer, 2011)
2.3 ประชำธิปไตยแบบปรึกษำหำรือ (Deliberative democracy)
แนวคิดทางประชาธิปไตยได้รับการอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงรูปแบบของประชาธิปไตย ซึ่งโดยทั่วไป
มี 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ 1) ประชาธิปไตยแบบทางตรง 2) ประชาธิปไตยแบบตัวแทน และ 3) ประชาธิปไตย
แบบมีส่วนร่วม นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งแนวคิดว่าด้วยรูปแบบประชาธิปไตยในแบบอื่น เช่น ประชาธิปไตย
แบบชุมปีเตอเรียน ประชาธิปไตยแบบประชานิยม ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม ประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ
ฯลฯ (สารานุกรมปรัชญาออนไลน์ฉบับสังเขป ส านักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.), 2552) ส าหรับ
ป ร ะชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ หรือ Deliberative democracy นั้น ได้รับการแปลความหมาย
ในภาษาไทยไว้หลายอย่างด้วยกัน เช่น ประชาธิปไตยแบบสานเสวนา ประชาธิปไตยแบบร่วมไตร่ตรอง
ประชาธิปไตยแบบประชาเสวนา หรือประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือ ซึ่งในบทนี้ จะขอใช้ค าว่า ประชาธิปไตย
3
แบบปรึกษาหารือ เนื่องจากเป็นค าที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุดและมีความหมายที่สอดคล้องกับรากศัพท์มากที่สุด
การปรึกษาหารือ (Deliberation) ถือเป็นกระบวนการตัดสินใจร่วมกันของชุมชนในประเด็นสาธารณะ
โดยมีการปรึกษาหารือพูดจากันในหลายรูปแบบ เช่น การท าประชาพิจารณ์ การหารือสาธารณะ และเวที
วิชาการ อาจกล่าวได้ว่า การปรึกษาหารือเป็นกลไกในการตัดสินใจอย่างหนึ่งของชุมชนที่เป็นช่องทางให้
การใช้ค าภาษาไทยเพื่อสื่อถึง deliberative democracy ในระหว่างการศึกษากรณีศึกษา 4 แห่ง ของสถาบันพระปกเกล้า
3
มีการใช้ค าว่า สานเสวนา ประชาเสวนา ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมทางสังคมวิชาการในแต่ละช่วง ซึ่งใน
ปัจจุบันพบว่า มีการใช้ค าว่าประชาธิปไตยแบบปรึกษาหารือบ่อยครั้งกว่าค าอื่น
21