Page 70 - kpiebook65017
P. 70
69
65
ของทางราชการ” จะเห็นได้ว่า บทบัญญัติดังกล่าวประสงค์จะไม่ให้มีการขัดกัน
ซึ่งผลประโยชน์ ดังนั้น ในการพิจารณาว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา
หรือกรรมาธิการรายอื่นมีส่วนโดยทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายหรือไม่ จึงต้อง
มีการพิจารณาด้วยว่ามีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์
ส่วนรวมของผู้ที่มีหน้าที่ในการพิจารณาหรือด�าเนินการในเรื่องนั้น ๆ หรือไม่ ดังนั้น
หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการเสนอหรือแปรญัตติ
หรือกระท�าการใด ๆ ในการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายแล้วท�าให้ตนได้รับ
ผลประโยชน์ส่วนตัวจากการใช้งบประมาณย่อมต้องห้ามตามมาตรา 144 วรรคสอง
ด้วย
66
หากวิเคราะห์แนวค�าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ได้แก่ ค�าวินิจฉัย
ของศาลรัฐธรรมนูญที่ 32/2546 ค�าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 14/2551 และ
ค�าวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 14/2552 แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ได้ชี้ชัดเรื่อง
การขัดกันซึ่งผลประโยชน์ในคดีนี้โดยตรง แต่หากพิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ศาลระบุใน
ค�าวินิจฉัยแล้วจะเห็นได้ว่า เป็นการน�าแนวคิดเรื่องการขัดกันซึ่งผลประโยชน์มาปรับใช้ได้
การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด�ารงต�าแหน่งรัฐมนตรีในเวลาเดียวกัน หรือหากกรรมาธิการ
ด�ารงต�าแหน่งผู้อ�านวยการส�านักงบประมาณในเวลาเดียวกัน แม้เป็นการขัดกันซึ่ง
ต�าแหน่งหน้าที่แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นการขัดกันซึ่งผลประโยชน์ กล่าวคือ
ไม่ปรากฏว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือกรรมาธิการได้รับผลประโยชน์ส่วนตัว
65 หนังสือที่ (รธน.) 546/2560 เรื่อง ความมุ่งหมายของมาตรา 144 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2560.
66 สุปรียา แก้วละเอียด และคณะ, ‘การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติ
มาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560’ (2563) ส�านักงาน
ศาลรัฐธรรมนูญ