Page 68 - kpiebook65017
P. 68
67
“การกระท�าด้วยประการใด ๆ” นั้น หมายความถึง การกระท�าในท�านองเดียวกับการเสนอ
และการแปรญัตติ และจ�ากัดเฉพาะการกระท�าที่อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติเท่านั้น
(3) กำรตีควำมประเด็นกำรมีส่วนทำงตรงหรือทำงอ้อมในกำรใช้งบประมำณ
รำยจ่ำย
การพิจารณาว่าอย่างไรจึงจะถือว่ามีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย
นั้นจ�าเป็นต้องพิจารณาหลักการทางฎหมายมหาชนและกฎหมายการคลังประกอบด้วย
กล่าวคือ ตามหลักการแบ่งแยกการใช้อ�านาจอธิปไตยที่เรียกร้องให้มีการแยกองค์กร
63
ผู้ใช้อ�านาจรัฐออกจากกันเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลอ�านาจซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับ
หลักการในทางกฎหมายการคลัง มีการแบ่งแยกอ�านาจระหว่างผู้มีอ�านาจในการจัดท�า
งบประมาณ ผู้มีอ�านาจในการอนุมัติงบประมาณ และผู้มีอ�านาจในการบริหารงบประมาณ
ออกจากกัน โดยฝ่ายบริหารจะเป็นผู้จัดท�างบประมาณและบริหารงบประมาณ ซึ่งก็จะ
เป็นไปตามหลักการริเริ่มทางการคลังเป็นของฝ่ายบริหาร ในขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
จะเป็นผู้อนุมัติงบประมาณ ซึ่งก็จะเป็นไปตามหลักการห้ามฝ่ายนิติบัญญัติริเริ่มก�าหนด
รายจ่ายแผ่นดิน หลักความยินยอมในการจ่ายเงินแผ่นดิน และหลักอ�านาจอนุมัติ
งบประมาณเป็นของรัฐสภา ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา
จึงมีหน้าที่ในการอนุมัติงบประมาณเท่านั้น จึงไม่ควรมีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย
เพราะผู้ที่มีอ�านาจในการใช้งบประมาณคือฝ่ายบริหาร
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ในระบบกฎหมายของประเทศไทยจึงไม่อนุญาต
ให้รัฐสภาเป็นผู้ริเริ่มในการจัดท�างบประมาณ เช่น เสนอร่างกฎหมายงบประมาณ
รายจ่าย หรือเพิ่มเติมรายจ่ายในการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณซึ่งถือว่า
63 เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์, หลักพื้นฐานกฎหมายมหาชน (พิมพ์ครั้งที่ 3, วิญญูชน 2558)
102-104.