Page 25 - kpiebook64015
P. 25

การเมืองในข้อหนึ่ง เป็นเพราะสถานะของพรรคการเมืองในประเทศเสรีประชาธิปไตยที่ปกครองโดยใช้กฎหมาย

              จารีตประเพณีไม่แตกต่างไปจากสมาคมทั่วไป (Voluntary association) อย่างหนึ่ง  พรรคการเมืองในประเทศ
              เหล่านี้จึงไม่ได้มีความแตกต่างจากสมาคมกีฬาหรือสมาคมทางสังคมอื่น ๆ

                     สาม จากข้อหนึ่งและสอง ก่อหน้าจะมีกฎหมายพรรคการเมือง พรรคการเมืองในประเทศดังกล่าวจึงเป็น

              สมาคมเอกชนที่กฎหมายไม่ได้ให้สิทธิหรือหน้าที่ใดใดที่ทำให้แตกต่างไปจากสมาคมหรือองค์กรเอกชนอื่น ๆ

                     สี่  จากข้อหนึ่งถึงสาม กฎหมายที่ออกมาก่อนหน้าที่จะมีการออกกฎหมายที่มาควบคุมพรรคการเมือง

              โดยตรง จะเป็นไปในลักษณะของมาตรการที่มุ่งบังคับใช้กับการแข่งขันของผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคนในระดับเขต

              เลือกตั้ง  มากกว่าที่จะเป็นกฎหมายที่มีขึ้นเพื่อควบคุมการแข่งขันของพรรคการเมืองในระดับชาติ  ดังที่ปรากฏใน

              กฎหมาย  Corrupt and Illegal Practices Prevention Act 1883

                     ผู้วิจัยขอเท้าความเกี่ยวกับที่มาของ กฎหมาย  Corrupt and Illegal Practices Prevention Act 1883
              นั่นคือ ก่อนหน้าปี ค.ศ. 1872  หรือ พ.ศ. 2415  การเลือกตั้งในอังกฤษยังไม่เป็นการลงคะแนนลับ  นั่นคือ เวลา

              ประชาชนไปลงคะแนน ทุกคนจะเห็นว่า เขาลงให้ใคร  กฎหมายเลือกตั้งยังไม่ได้กำหนดให้เป็นการลงคะแนนลับที่ไม่

              มีใครสามารถล่วงรู้ได้ว่า ใครลงให้ใครนอกจากเจ้าตัว  สิ่งที่เกิดขึ้นเรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ. 1872  ก็คือ นักการเมืองใช้
              วิธีการต่างๆในการที่จะให้ประชาชนลงคะแนนให้ตน เช่น การข่มขู่และใช้อิทธิพลในลักษณะต่างๆ เช่น มีนักเลง

              อันธพาลคอยประกบติดตามดูที่หน่วยเลือกตั้งเลือกต่อหน้าต่อตา   นอกจากการข่มขู่ก็มีวิธีการอื่นๆ เช่น เมื่อถึงวัน
              เลือกตั้ง มีการเกณฑ์ผู้คนเข้าไปในร้าน (ผับ/pub) ที่มีการเตรียมเหล้ายาปลาปิ้งเต็มที่ หลังจากเลี้ยงดูปูเสื่อแล้ว ก็มี

              การประกบกันไปที่หน่วยเลือกตั้งดูแลให้ผู้คนเหล่านั้นลงคะแนนให้ตนเป็นที่เรียบร้อย หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ซื้อเสียง

                                                                                                          36
              กันจะๆไปเลย  มีการซื้อเสียงกันแบบยกเขต ยกครัวเรือน ซึ่งการเลือกตั้งในช่วงนั้นดูจะคล้ายงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง
                     สภาพการณ์แบบนี้ส่งผลให้นักการเมืองจำนวนหนึ่งเห็นว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม  แต่ก็มี

              นักการเมืองอีกมากที่เห็นว่า ไม่เป็นไร !   เพราะวิธีการ “หาเสียง” แบบนั้น มันทำให้พวกเขาได้เข้าไปนั่งในสภา เงิน

              ที่จัดเลี้ยงหรือซื้อเสียงก็เป็นเงินของเขาเอง  การข่มขู่ประกบตัวก็อาจจำเป็นเพราะว่า ต้องการให้แน่ใจว่าเมื่อเลี้ยง
              ข้าวเลี้ยงเหล้าหรือแจกเงินไปแล้ว ประชาชนเหล่านั้นจะบิดพลิ้วไม่ได้ อีกทั้ง การเข้าไปเป็น ส.ส. ในสมัยนั้น ก็ไม่ได้

                                                                                                        37
              เงินเดือนอะไรด้วย  เพราะ ส.ส. อังกฤษเริ่มมีเงินเดือนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1911  เริ่มต้นจากปีละ 400 ปอนด์   แต่
              ฝ่ายที่เห็นว่า สภาพการณ์การเลือกตั้งแบบนี้ไม่ชอบธรรม ก็พยายามพลักดันให้กฎหมายที่มุ่งจะแก้ปัญหานี้ออกมาได้
              นั่นคือ พ.ร.บ. การลงคะแนนเสียง ค.ศ. 1872 (the Ballot Act 1872)  ที่กำหนดให้การลงคะแนนเสียงเป็นการ









              36   Edward  Porritt  and  Annie  Gertrude  Porritt,  The  Unreformed  House  of  Commons;  Parliamentary
              Representation  Before  1832,  ( Delhi,  India:   Facsimile  Publisher:   1903,  2018) ,  pp.   78-79,  94-95;  154-155;
              https://www.bbc.co.uk/bitesize/guides/z9hnn39/revision/3
              37  https://www.bbc.co.uk/bitesize/guides/z9hnn39/revision/3






                                                            25
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30