Page 23 - kpiebook64015
P. 23
Watt v. Ashan (2008)) จะส่งผลให้กฎหมายระบุว่าพรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องทำตามธรรมนูญและข้อบังคับของ
พรรค (ที่พรรคเป็นผู้ร่าง) และทำให้พรรคการเมืองเป็นองค์กรที่อยู่ภายใต้กฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ (anti-
discrimination legislation) ก็ตาม นอกจากนี้ Gauja ยังกล่าวถึงกฎหมายในมิติอื่น ๆ ที่แม้จะไม่ได้ออกมาเพื่อ
31
รับรองสถานะของพรรคการเมืองโดยตรง แต่มีขึ้นเพื่อสร้างมาตรการบางอย่างในการควบคุมพฤติกรรมและการ
ดำเนินการของพรรคการเมือง เช่น การควบคุมในมิติที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นในกระบวนการเลือกตั้ง
ของสหราชอาณาจักรที่ปรากฏในกฎหมาย the Representation of the People Act 1883 (the Corrupt
Practices Act 1883) ซึ่งระบุรายละเอียดของการกระทำที่ถือเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น เช่น ข้อหาจ่ายสินบนจาก
การมอบเงินหรือตำแหน่งให้เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับบุคคลที่มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่พรรคตน หรือ
ข้อหาซื้อเสียงด้วยการให้อามิสสินจ้างอื่น ๆ ที่กฎหมายระบุว่ายังรวมถึงการแจกอาหาร เครื่องดื่ม และการจัด
มหรสพอีกด้วย หรือข้อหาใช้อิทธิพลหรือกำลังในการข่มขู่ให้คนไปเลือกตั้งหรือไม่ไปเลือกตั้ง หรือแม้แต่จ่ายเงิน
ให้กับผู้สมัครเพื่อให้ถอนตัวจากการเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่มีบทลงโทษทั้งที่เป็นโทษการ
จำคุกหรือโทษปรับเงินทั้งสิ้น เป็นต้น หรือการควบคุมในมิติของการโฆษณาหาเสียงผ่านสื่อของพรรคการเมืองใน
32
อังกฤษที่ถูกควบคุมด้วยกฎหมาย Broadcasting Act 1990 ที่ระบุห้ามมิให้พรรคการเมืองใดใดทำการโฆษณาหา
33
เสียงในโทรทัศน์หรือวิทยุ แต่สามารถซื้อโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือแผ่นป้ายโฆษณาตามสถานที่ต่าง ๆ ได้
เป็นต้น
สุดท้าย Gauja กล่าวถึงประเด็นเรื่องการออกกฎหมายหรือมาตรการเพื่อควบคุมการระดมและใช้จ่ายเงิน
ของพรรคการเมือง ซึ่งประกอบด้วยกรณีของการออกกฎหมายจ่ายเงินอุดหนุนพรรคการเมืองในการหาเสียง
เลือกตั้ง ซึ่งในกรณีของสหราชอาณาจักร แม้จะมีการอภิปรายโต้เถียงในรัฐสภาเป็นจำนวนหลายครั้ง แต่กฎหมาย
ดังกล่าวได้ถูกตีตกไปโดยตลอด ดังนั้นการดำเนินกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักรจึง
ดำเนินไปโดยปราศจากเงินช่วยเหลืออุดหนุนใดๆจากภาครัฐ เช่นเดียวกันกับที่ปรากฏในนิวซีแลนด์ แม้ว่ากฎหมาย
Political Parties, Elections and Referendums Act 2000 จะอำนวยสิทธิประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างใน
ระหว่างหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคการเมืองก็ตาม เช่น อนุญาตให้เข้าใช้สถานที่ราชการเพื่อการหาเสียงได้ฟรี
หรืออนุญาตให้พรรคการเมืองหาเสียงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียงได้อย่างเท่าเทียมกันตามที่ถูกแบ่งสรรให้
34
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นต้น และในมิติสุดท้าย คือเรื่องการระดมทุนและการใช้จ่ายเงินที่ได้จากการระดมทุนของ
พรรคการเมือง เพราะก่อนหน้าปี ค.ศ. 2000 มาตรการเดียวที่บังคับใช้คือการควบคุมเพดานค่าใช้จ่ายในการหา
เสียงของผู้สมัครแต่ละคน แม้กฎหมายจะยังมีช่องโหว่จากการไม่ได้กำหนดเพดานค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองแต่
ละพรรคด้วยก็ตาม ดังนั้น หลังจากการมีประกาศใช้ Political Parties, Elections and Referendums Act
31 Gauja, Political Parties and Elections, 103-104.
32 Ibid., 128.
33 Ibid., 132.
34 Ibid., 153.
23