Page 86 - kpiebook64014
P. 86

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ2 “บทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อการป@องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำใหFบุคคลสูญหาย”  สถาบันพระปกเกลFา


                                                               ติดต1อกับเจ7าหน7าที่กงสุล ทั้งนี้ จะต7องเป”นไปตามกฎหมาย
                                                               ระหว1างประเทศที่เกี่ยวข7อง

                                                               (e)  รับประกันว1าเจ7าหน7าที่ของรัฐและสถาบันที่เกี่ยวข7อง
                                                               สามารถเข7าถึงสถานที่ที่บุคคลถูกลิดรอนเสรีภาพ และหาก
                                                               จำเป”นก็ต7องได7รับอนุญาตล1วงหน7าจากหน1วยงานด7านการ
                                                                   306
                                                               ศาล”


                            พันธกรณีที่จะต;องจัดให;บุคคลดังกล<าวสามารถติดต<อสื่อสารกับครอบครัว ที่ปรึกษา หรือบุคคลใดก็

               ได;ตามที่ต;องการนั้น มีวัตถุประสงค,หลัก 3 ประการ คือ ประการแรก เพื่อเป_นหลักประกันว<าบุคคลที่ถูกจำกัด

               เสรีภาพนั้นจะยังคงถูกคุมขังในลักษณะที่ครอบครัว ญาติ หรือบุคคลอื่นใดสามารถติดต<อเข;าถึงได; ไม<หายสาบสูญ
               หรือถูกคุมขังในที่ลับจนขาดการติดต<อไป ประการที่สอง เพื่อเป_นหลักประกันว<าบุคคลที่ถูกจำกัดเสรีภาพนั้นจะ

                                                                                                           307
               ยังคงมีชีวิตอยู<โดยไม<มีร<องรอยการถูกทรมาน หรือการประติบัติอย<างโหดร;าย ไร;มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี
               และประการสุดท;าย เพื่อเป_นหลักประกันสิทธิในการได;รับความสะดวกเพียงพอแก<การเตรียมการเพื่อต<อสู;คดี

               (Right to an Adequate Defence) ซึ่งเป_นสิทธิที่ได;รับการรับรองในกติกา ICCPR  โดยบุคคลที่ถูกจำกัด
                                                                                       308
               เสรีภาพต;องสามารถติดต<อสื่อสารกับที่ปรึกษาหรือทนายความที่ตนเลือกได;  เพื่อประโยชน,สูงสุดในการต<อสู;คดี
                                                                             309
                            ในกรณีที่ผู;ถูกจำกัดเสรีภาพเป_นคนชาติของรัฐอื่นที่ไม<ใช<รัฐที่จำกัดเสรีภาพหรือเป_นคนไร;สัญชาติ

               บุคคลนั้นก็จะต;องได;รับอนุญาตให;ติดต<อกับผู;แทนที่เหมาะสมในระหว<างที่ถูกคุมขังด;วย เช<น เจ;าพนักงานกงสุลของ
               รัฐที่ตนเป_นคนชาติ หรือผู;แทนของรัฐที่ตนพำนักอยู<เป_นปกติ เช<นเดียวกันกับกรณีการได;รับอนุญาตให;ติดต<อสื่อสาร

               โดยทันทีเมื่อถูกคุมขัง
                                 310
                            นอกจากนี้ รัฐภาคียังมีพันธกรณีที่จะต;องรับประกันว<าเจ;าหน;าที่ของรัฐและสถาบันที่เกี่ยวข;อง

               สามารถเข;าถึงสถานที่ที่บุคคลถูกจำกัดเสรีภาพได; และหากจำเป_นก็จะต;องได;รับอนุญาตล<วงหน;าจากหน<วยงาน


                     306  Supra Note 13, CED, Art. 17(2)(d)-(e)
                     “2. Without prejudice to other international obligations of the State Party with regard to the deprivation of liberty, each
               State Party shall, in its legislation:
                     (d) Guarantee that any person deprived of liberty shall be authorized to communicate with and be visited by his or her
               family, counsel or any other person of his or her choice, subject only to the conditions established by law, or, if he or she is a
               foreigner, to communicate with his or her consular authorities, in accordance with applicable international law;
                     (e) Guarantee access by the competent and legally authorized authorities and institutions to the places where persons
               are deprived of liberty, if necessary with prior authorization from a judicial authority;.”
                     307  Ibrahim and others v. UK, App Judgment of 13 September 2016.
                     308  Supra Note 11, ICCPR, Art. 14(3)(b).
                     309  Supra Note 162, p. 273.
                     310  Supra Note 302, VCCR, Art. 36.



                                                             86
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91