Page 75 - kpiebook64014
P. 75

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ2 “บทบัญญัติทางกฎหมายเพื่อการป@องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำใหFบุคคลสูญหาย”  สถาบันพระปกเกลFา


                     4.2.2  กรณีเมื่อได.รับข.อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิด

                     การกำหนดให;รัฐภาคีต;องดำเนินมาตรการทางกฎหมายเมื่อได;รับข;อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิด เป_นความ

               ตั้งใจของผู;ร<างฯ ที่เล็งเห็นว<าลำพังเพียงการกำหนดว<าการกระทำใดเป_นความผิดย<อมไม<เพียงพอที่จะคุ;มครอง

                                                                                                           268
               บุคคลให;รอดพ;นจากการถูกละเมิด แต<ต;องมีการดำเนินการปLองกันและปราบปรามอย<างจริงจังจากรัฐด;วย
               ดังนั้น อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับจึงกำหนดในลักษณะเดียวกันว<า เมื่อรัฐได;รับข;อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิด รัฐจะต;อง

               ดำเนินมาตรการทางกฎหมายด;วยการดำเนินการสืบสวนข;อเท็จจริง โดยมีประเด็นพิจารณาดังนี้

                            4.2.2.1  ต.องดำเนินการสืบสวนเมื่อมีมูลเหตุอันสมเหตุสมผลที่จะเชื่อได.แม.มิได.มีการร.องทุกขh

                                      อยcางเปfนทางการ

                            อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ต<างกำหนดให;รัฐมีพันธกรณีที่จะต;องดำเนินการสืบสวนเมื่อมีมูลเหตุอัน

               สมเหตุสมผลที่จะเชื่อได;ว<ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นแม;มิได;มีการร;องทุกข,อย<างเป_นทางการ ดังนี้

                                     CAT                                            CED

                 ข7อ 12                                        ข7อ 12(2)
                     “ให7รัฐภาคีแต1ละรัฐประกันว1า เจ7าพนักงานผู7มีอำนาจ  “2. เมื่อใดก็ตามที่มีมูลเหตุอันสมเหตุสมผลที่จะเชื่อได7

                 ของตนดำเนินการสืบสวนโดยพลันและโดยปราศจากความ ว1า ได7มีการบังคับบุคคลให7หายสาบสูญ เจ7าหน7าที่ที่อ7างถึงใน
                 ลำเอียง เมื่อใดก็ตามที่มีมูลเหตุอันสมเหตุสมผลที่จะเชื่อได7ว1า  วรรค 1 ของข7อนี้ ต7องดำเนินการสืบสวน แม7จะมิได7มีการร7อง
                                                                                    270
                 ได7มีการกระทำการทรมานเกิดขึ้นในอาณาเขตที่อยู1ภายใต7เขต ทุกขŽอย1างเป”นทางการก็ตาม”
                            269
                 อำนาจของตน”


                            ในเรื่องนี้ ผู;ร<างอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ คำนึงถึงข;อเท็จจริงในทางปฏิบัติว<าเหยื่อของการกระทำผิด

               อาจไม<อยู<ในสถานะที่จะร;องทุกข,อย<างเป_นทางการได;เพราะอาจกำลังถูกทรมานหรืออยู<ระหว<างการกระทำให;
                            271
               บุคคลสูญหาย  หรือเหยื่ออาจปฏิเสธที่จะร;องทุกข,เพราะถูกข<มขู<ว<าจะเอาชีวิตหรือทำร;ายตัวเหยื่อเองหรือ
               ครอบครัวของเหยื่อ ดังนั้น อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับจึงไม<กำหนดให;การร;องทุกข,อย<างเป_นทางการเป_นเงื่อนไขในการ

               เริ่มกระบวนการยุติธรรม หากแต<กำหนดให;เป_นพันธกรณีของรัฐโดยตรงที่จะต;องดำเนินการสืบสวนเมื่อรัฐได;รับ


                     268  Supra Note 141, CAT Handbook, p. 144.
                     269  Supra Note 12, CAT, Art. 12
                     “Each State Party shall ensure that its competent authorities proceed to a prompt and impartial investigation, wherever
               there is reasonable ground to believe that an act of torture has been committed in any territory under its jurisdiction.”
                     270  Supra Note 13, CED, Art. 12(2)
                     “2. Where there are reasonable grounds for believing that a person has been subjected to enforced disappearance, the
               authorities referred to in paragraph 1 of this article shall undertake an investigation, even if there has been no formal complaint.”
                     271  Supra Note 15, p. 234.



                                                             75
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80