Page 44 - kpiebook64011
P. 44

ส าคัญก็คือลักษณะของการเมืองระบบอุปถัมภ์แบบเจ้าพ่อของไทยก็คือการที่การเมืองท้องถิ่นเมื่อพิจารณาจาก
               ระบบเจ้าพ่อและการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นไม่ท าให้เกิดการเลื่อนสถานะทางสังคมในท้องถิ่น ความสัมพันธ์และ

               โครงสร้างอ านาจในท้องถิ่นมีลักษณะที่หยุดนิ่งขาดพลวัตและท าให้ประชาชนในท้องถิ่นยอมรับสภาพกับ
               โครงสร้างเครือข่ายระบบอุปถัมภ์ที่มี (Viengrat Nethipo, 2019)


                       ในทัศนะของเวียงรัฐ เนติโพธิ์ ใน Viengrat Nethipo (2019) การศึกษาเรื่องของการเมืองของระบบ
               อุปถัมภ์ในการเลือกตั้งนั้นมีจุดเปลี่ยนเมื่อมีการกระจายอ านาจที่มากับรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540 ทั้งนี้
               เนื่องมาจากมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของรัฐ เพราะว่าการกระจายอ านาจได้ลดอ านาจของรัฐบาลที่
               ส่วนกลางลง ดังนั้นจึงลดความส าคัญของความเชื่อมโยงระหว่างผู้มีอิทธิพลในจังหวัดกับข้าราชการที่มีอ านาจ

               ในพื้นที่ซึ่งมาจากกรุงเทพ ความเปลี่ยนแปลงนี้ได้บ่อนเซาะความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ระหว่างรัฐกับผู้มีอิทธิพล
               และผู้น าในระดับท้องถิ่นได้มีทางเลือกในการเข้าสู่/เข้าถึงอ านาจรัฐในรูปแบบของการมีต าแหน่งในองค์การ
               บริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ท าให้ไม่มีความจ าเป็นต้องรักษาโครงสร้างความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ที่มีต้นทุนสูง
               และมีความเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นฐานของรูปแบบของระบบเจ้าพ่อ และเมื่อผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการ

               เลือกตั้งในท้องถิ่นและมีต าแหน่งทางการเมืองในระดับท้องถิ่น ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในท้องถิ่นและผู้
               มีอิทธิพลก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป เพราะในฐานะที่เป็นผู้บริหารในระดับท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของ
               ประชาชน พวกเขาจะต้องจัดหาบริการตามระเบียบปฏิบัติของหน่วยงานที่พวกเขาเข้ามาบริหาร ไม่ใช่ในฐานะ
               ที่เขาเป็นเจ้าพ่อ และการจัดสรรงบประมาณก็ท าให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านี้สามารถส่งผ่าน

               อ านาจอุปถัมภ์ลงสู่ประชาชนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการมีเครือข่ายความสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูงที่ทรง
               อ านาจที่ถูกส่งมาจากส่วนกลาง และภายหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ใคร ๆ ก็สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
               โดยไม่จ าเป็นต้องเป็นเจ้าพ่อ นอกจากนั้นแล้วผลที่ตามมาอีกประการหนึ่งก็คือการที่ความรุนแรงในการเมือง

               ท้องถิ่นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นการต่อสู้ผ่านการเลือกตั้ง (Viengrat Nethipo, 2008 อ้างใน Viengrat
               Nethipo, 2019)


                       ในรายละเอียดภายหลังการปฏิรูปทางการเมือง และการเริ่มต้นกระบวนการกระจายอ านาจเมื่อ พ.ศ.
               2540 จนถึงก่อนการรัฐประหาร 2557 งานของเวียงรัฐ เนติโพธิ์ (2558) ชี้ว่าพลวัตของการเมืองในมิติของการ
               เลือกตั้งทั้งในระดับชาติและท้องถิ่นแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ทางอ านาจในหลาย
               ประการ ได้แก่ การที่ระบบพรรคการเมืองที่เข้มแข็งได้สร้างกลไกแบบจักรกลการเมือง (machine politics)
               คือเครือข่ายการสร้างฐานคะแนนเสียงภายใต้ผลประโยชน์ร่วมกันในนามพรรคการเมือง พรรคการเมืองได้

               เชื่อมโยงการเลือกตั้งระดับชาติกับอ านาจน าในระดับท้องถิ่น อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นนั้นก็ยัง
               มีมิติของทั้งการที่พรรคการเมืองในส่วนภาพลักษณ์และในส่วนของนโยบายมีบทบาทในการน าเสนอทางเลือก
               ให้กับประชาชนผ่านการเชื่อมโยงกับนักการเมืองท้องถิ่นเดิม และตัวนักการเมืองที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อพรรค

               การเมือง หรือสามารถย้ายพรรคได้ และยังคงมีเส้นสายกับระบบราชการเพื่อเข้าถึงงบประมาณเหมือนที่ผ่าน
               มา แต่ทั้งนี้สถาบันหัวคะแนนก็ยังมีบทบาทส าคัญทั้งในการเลือกตั้งระดับชาติและในระดับท้องถิ่น แต่ก็มี
               ประชาสังคมใหม่ ๆ เข้ามามีบทบาทในท้องถิ่นด้วย


                       กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ งานของเวียงรัฐ เนติโพธิ์ ชี้ว่า ระบบอุปถัมภ์อาจจะยังมีอยู่ในการเมืองทั้งใน
               ระดับท้องถิ่นและในระดับชาติ แต่ไม่ใช่ตัวแบบเดียว โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น อีกทั้งการซื้อเสียงไม่ใช่สิ่งที่ท า
               ได้ง่าย หรือปราศจากเงื่อนไขของการซื้อใจในท้องถิ่นท่ามกลางความตื่นตัวของประชาชน และการซื้อเสียงโดย

               ไม่ซื้อใจนั้นไม่ใช่หลักประกันที่จะได้รับชัยชนะ ที่ส าคัญเกิดการแบ่งหน้าที่กันระหว่างนักการเมืองระดับชาติกับ




                          โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ   26
   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49