Page 48 - kpiebook64011
P. 48
งานของโอฬาร ถิ่นบางเตียวชี้ว่า ระบบอุปถัมถ์ยังมีความส าคัญในการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาค
ตะวันออก และมองการด ารงอยู่และพลวัตของมันในแง่ของการสะสมทุนทางวัฒนธรรม (social capital) ที่
เชื่อมประสานกับระบบเศรษฐกิจการเมือง คือการสะสมทุน และการสร้างเครือข่ายอ านาจทางการเมือง ที่
เชื่อมโยงทั้งกับชาวบ้าน เครือข่าย และเครือญาติ รวมทั้งระบบราชการ และเครือข่ายการเมืองระดับชาติ
เมื่อท าการส ารวจงานวิจัยหลักเรื่องการเมืองท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับระบบอุปถัมภ์ทั้งสองกลุ่ม/แนวคิด
ใหม่นี้ ค าถามที่ส าคัญก็คือ การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในจังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 20
ธันวาคม 2563 นี้จะเป็นไปอย่างไร เพราะมีปัจจัยส าคัญอีกประการหนึ่งที่ต่างจากงานทั้งสองชิ้นนี้ก็คือการ
เลือกตั้งท้องถิ่นนี้เป็นการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชุดแรก หลังการยึดอ านาจการเมืองการปกครอง
นับตั้งแต่การท ารัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อปี 2557 และเป็นครั้งแรก/ชุดแรกหลังจาก
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรก
หลังจากเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยภายหลังการครองอ านาจอันยาวนานในระบอบเผด็จการ อย่างไรก็ตาม ยัง
มีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า การเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปสู่
ประชาธิปไตย หรือเป็นเพียงการเลือกตั้งเพื่อรักษาอ านาจเผด็จการเอาไว้กันแน่ (โปรดดูทฤษฎีการเลือกตั้งและ
การปกครองท้องถิ่นในสังคมเผด็จการในส่วนท้ายของบทนี้ ซึ่งน าเสนอจากกรณีรัสเซีย)
นั่นหมายความว่า ข้อค้นพบในงานวิจัยนี้จะพยายามมีบทสนทนากับข้อถกเถียง ในเรื่องของการ
หายไปหรือการเกิดรูปแบบใหม่ของระบบอุปถัมภ์หรือการเมืองแบบอื่น ๆ ในสิ่งที่เวียงรัฐ เนติโพธิ์พยายาม
น าเสนอ หรืออาจจะตอกย้ ามุมมองแบบโอฬาร ถิ่นบางเตียวที่เชื่อว่าระบบอุปถัมภ์ไม่ได้หายไป และการเปลี่ยน
เข้าสู่ประชาธิปไตยนั้นก็ยังคงเป็นคุณให้ชนชั้นน าในอ านาจในท้องที่อยู่เช่นเดิม หรือการเลือกตั้งท้องถิ่นของ
สมุทรปราการจะท าให้เราเข้าใจเรื่องราวของโครงสร้างอ านาจ ระบบอุปถัมภ์ หรือ มิติอื่น ๆ อีก (เช่นว่า
ตระกูลอัศวเหมนั้นกลับมาได้หรือไม่ คู่แข่งทางการเมืองของอัศวเหมมีใครบ้าง และเป็นอย่างไร) อีกทั้งยังมีอีก
ปัจจัยหนึ่งก็คือเรื่องของการตื่นตัวของคนรุ่นใหม่ ที่สะท้อนจากคะแนนเสียงระดับชาติในพื้นที่ของพรรค
อนาคตใหม่ ซึ่งในรอบนี้แม้จะถูกยุบพรรค แต่ก็ยังมีความยึดโยงกับกลุ่มการเมืองอย่างคณะก้าวหน้า เป็นต้น
แต่ก่อนที่จะอภิปรายเพิ่มเติม ในส่วนทฤษฎีนี้จะขอพูดถึงแนวคิดอีกสองแนวคิดคือ จักรกลทาง (เศรษฐกิจ)
การเมือง และการเลือกตั้งและการปกครองท้องถิ่นในสังคมเผด็จการ
ค. จากจักรกลการเมืองสู่จักรกลเศรษฐกิจการเมือง: การน าเข้าแนวคิดเรื่องของจักรกลการเมือง
(political machine) ต่อการศึกษาการเมืองท้องถิ่นค่อนข้างเป็นที่สนใจในวงแคบ เมื่อเทียบกับการพูดถึงมิติ
ทางการเมืองของระบบอุปถัมภ์และมิติของการศึกษาระบบอุปถัมภ์เอง อย่างไรก็ดีการศึกษาจักรกลการเมือง
(political machine) มีประโยชน์เป็นอย่างมากในการท าความเข้าใจการเมืองท้องถิ่นของไทย โดยเฉพาะการ
ท าความเข้าใจว่าระบบอุปถัมภ์นั้นถูกน ามาปรับใช้เป็นแบบแผนปฏิบัติ (operationalization) ในทางการเมือง
ได้อย่างไรในรายละเอียด และที่ส าคัญแนวคิดเรื่องจักรกลการเมืองอิงกับประสบการณ์ของเมืองในโลก
ตะวันตก มากกว่าชนบทในโลกเกษตรที่ไม่ใช่ตะวันตก แต่ทั้งนี้แนวคิดเรื่องจักรกลการเมืองมักถูกมองว่าเป็น
แนวคิดที่อธิบายปรากฏการณ์ที่หมดไปแล้วในสังคมตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
งานเขียนของเวียงรัฐ เนติโพธิ์ในชิ้นแรก ๆ (2542) เป็นงานที่น าเสนอแนวคิดเรื่องจักรกลการเมือง
อย่างเป็นระบบที่สุด โดยชี้ให้เห็นปรากฏการณ์ของจักรกลการเมืองในอเมริกา เพื่อเป็นบทเรียนเพื่อเข้าใจ
อิทธิพลในการเมืองท้องถิ่นไทย โดยเวียงรัฐ เนติโพธิ์พยายามน าเข้าแนวคิดเรื่องของจักรกลการเมืองใน
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 30