Page 143 - kpiebook64011
P. 143
2542) ขั้วอ านาจที่สองนี้เกิดขึ้นไปพร้อมกับมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับขบวนการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จ
การแห่งชาติในพื้นที่ จึงยิ่งท าให้ขั้วอ านาจนี้เติบโตมากขึ้นในช่วงหลังการรัฐประหารปี 2549 นอกจากสองขั้ว
อ านาจดังกล่าวแล้ว งานวิชาการก่อนหน้านี้ยังน าเสนอมุมมองที่แตกต่างกันออกไป โดยพรชัย เทพปัญญา และ
พงษ์ยุทธ สีฟ้า (2548, น. 98-103) มองว่ากลุ่มนักการเมืองในพื้นที่ซึ่งสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นขั้วอ านาจ
ทางการเมืองที่ส าคัญก่อนการเกิดขึ้นของขั้วอ านาจนักการเมืองฝ่ายพรรคไทยรักไทยและเพื่อไทย ข้อเสนอนี้
แตกต่างไปจากความเห็นของกฤตยาณี พิรุณเนตร (2557, น. 74-84) ที่เสนอว่า กลุ่มของนายอ านวย รัศมิทัต
คือขั้วอ านาจที่ส าคัญอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่กลุ่มนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเหตุว่ากลุ่มนักการเมืองที่เคย
สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ต่างยุติบทบาททางการเมืองไปแล้ว ในขณะที่กลุ่มของนายอ านวยยังมีตัวแทนของกลุ่ม
ที่มีบทบาททางการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นอยู่
งานวิชาการในอดีตที่วิเคราะห์ขั้วอ านาจในจังหวัดสมุทรปราการยุติการวิเคราะห์ลงในช่วงปลาย
ทศวรรษที่ 2550 แต่หากขยายกรอบเวลาการวิเคราะห์มาจนถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ปี 2563 จะท าให้เห็นการเสื่อมคลายลงของขั้วอ านาจนักการเมืองพรรคเพื่อไทยพร้อมกับการฟื้นฟูอ านาจน า
ทางการเมืองของขั้วอ านาจตระกูลอัศวเหม หากใช้กรอบการเลือกตั้งและผลการเลือกตั้งเป็นตัวชี้วัดเพื่อ
สะท้อนขั้วอ านาจทางการเมือง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในปี 2562 สะท้อนให้เห็นว่า ขั้วอ านาจ
นักการเมืองพรรคเพื่อไทยเสื่อมคลายลงอย่างมาก เพราะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ได้เลย อย่างไรก็
ตามการเสื่อมคลายลงของขั้วอ านาจนักการเมืองพรรคเพื่อไทยควรได้รับการวิเคราะห์และอภิปรายอย่าง
กว้างขวางมากกว่านี้ เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อาทิ นักการเมืองของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จ านวน
หนึ่งถูกด าเนินคดีจากการเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับขบวนการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ
แห่งชาติ นอกจากนั้นยังเกิดการเจรจาต่อรองเพื่อให้นักการเมืองในกลุ่มพรรคเพื่อไทยย้ายสังกัดไปอยู่กับพรรค
การเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับพรรคเพื่อไทย (นักธุรกิจรายใหญ่ในพื้นที่, สัมภาษณ์, วันที่ 19 เมษายน
2564) การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ปี 2563 ยิ่งสะท้อนให้เห็น
การเสื่อมคลายลงของขั้วอ านาจนักการเมืองพรรคเพื่อไทยกล่าวคือ เครือข่ายของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ให้การ
สนับสนุนแก่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดรายหนึ่งจนประชาชนในพื้นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง
(ผู้ใหญ่บ้านหญิงท่านหนึ่ง, สัมภาษณ์, วันที่ 18 เมษายน 2564) แต่ผู้สมัครซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเครือข่าย
พรรคเพื่อไทยกลับได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนน้อยและผิดไปจากความคาดหวังมาก (อดีตนายกองค์การ
บริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการท่านหนึ่ง, สัมภาษณ์, วันที่ 12 เมษายน 2564)
ในทางกลับกัน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2562 และการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการปี 2563 ได้สะท้อนให้เห็นการกลับมาของขั้วอ านาจตระกูลอัศวเหม
ภายใต้การน าของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เพราะเหตุว่าผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐที่กลุ่มอัศวเหมให้การ
สนับสนุนสามารถชนะการเลือกตั้งใน 5 จาก 7 เขตเลือกตั้ง ชัยชนะดังกล่าวถูกประเมินจากผู้ให้ข้อมูลรายหนึ่ง
ว่านายชนม์สวัสดิ์ สามารถน าพาเครือข่ายให้กลับขึ้นมามีอ านาจน าได้เสมือนกับช่วงที่นายวัฒนายังมีอ านาจอยู่
(ผู้ใหญ่บ้านชายท่านหนึ่ง, สัมภาษณ์, วันที่ 5 เมษายน 2564 ) การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การ
บริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ปี 2563 เป็นข้อยืนยันการฟื้นฟูอ านาจของตระกูลอัศวเหมอีกประการหนึ่ง
ดังจะเห็นได้จากผู้สมัครชิงต าแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ตระกูลอัศวเหมให้การสนับสนุนได้รับชัย
ชนะโดยมีคะแนนทิ้งห่างจากผู้สมัครที่ได้คะแนนเป็นอันดับสองราว 260,000 คะแนน (ประกาศคณะกรรมการ
การเลือกตั้งประจ าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เรื่อง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง, วันที่ 8
กุมภาพันธ์ 2564) ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดก็ชี้ให้เห็นการฟื้นฟูอ านาจของตระกูล
โครงการศึกษาการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ปี 2563: การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ 125