Page 41 - kpiebook63032
P. 41

40       การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสระแก้ว








                     ควำมส�ำคัญของกำรเลือกตั้ง


                      ธโสธร ตู้ทองคำา (2545) จำาแนกความสำาคัญของการเลือกตั้ง ไว้ 2 ลักษณะ คือ


                      1. ความสำาคัญของการเลือกตั้งในทางทฤษฎี โดยที่ทฤษฎีการแบ่งอำานาจอธิปไตยแบ่งออกเป็น
             สามส่วน คือ อำานาจนิติบัญญัติ อำานาจบริหาร และอำานาจตุลาการ มีความเชื่อมโยงกับปรัชญาการเลือกตั้ง

             กล่าวคือ การเลือกตั้งจะเป็นที่มาของกลไกผู้ใช้อำานาจอธิปไตยในประเทศประชาธิปไตย ในความหมายนี้
             การเลือกตั้งจะเป็นที่มาของกลไกผู้ใช้อำานาจอธิปไตย ซึ่งได้มีการมอบอำานาจให้กับตัวแทนไปปฏิบัติการแทน

             ตามกระบวนการและขั้นตอนที่กำาหนดไว้ การเลือกตั้งจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้ลงคะแนน
             เสียงได้มีส่วนร่วมทางการเมืองในการเป็นผู้ใช้อำานาจอธิปไตย ด้วยการเลือกตั้งตัวแทนเข้าไปทำาหน้าที่ใน

             ทางนิติบัญญัติ และมีความสัมพันธ์กับอำานาจทางฝ่ายบริหาร ความสำาคัญของการเลือกตั้งในทางทฤษฎี
             ที่เป็นไปตามนัยแห่งทฤษฎีประชาธิปไตยแบบคลาสสิค (Classic democratic theory) ชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้ง

             เป็นการเลือกรัฐบาลที่จะเข้ามาปกครอง


                        2. ความสำาคัญของการเลือกตั้งในทางปฏิบัติ การเลือกตั้งในทางปฏิบัตินั้น มีความสำาคัญใน
             ฐานที่เป็นสิทธิขั้นมูลฐานของมนุษย์โดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย อันเห็นได้เด่นชัดจากบทบัญญัติ

             เชิงบังคับ ข้อ 21(1) แห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal declaration OF HUMAN RIGHT)
             ซึ่งสรุปใจความสำาคัญไว้ว่า “เจตจำานงของประชาชนย่อมเป็นมูลฐานแห่งอำานาจการปกครองของรัฐบาล

             เจตจำานงดังกล่าวต้องแสดงโดยการเลือกตั้งอันสุจริต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามกำาหนดเวลา ด้วยการลง
             คะแนนเสียงของชายหญิง โดยถือหลักคนละหนึ่งเสียงเท่ากัน และกระทำาเป็นการลับ ด้วยวิธีการอื่นใดที่

             รับประกันได้ว่าการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะเป็นไปโดยเสรี” ในแง่นี้การเลือกตั้งจะเป็นกระบวนการทาง
             ปฏิบัติหรือขั้นตอนที่สำาคัญของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเสรีประชาธิปไตย (Liberal democracy) และ

             ในทางปฏิบัตินี้อาจจัดแบ่งความสำาคัญของการเลือกตั้งออกเป็น 6 ประการ ประกอบด้วย

                        ประการแรก การเลือกตั้งเป็นกระบวนการทางการเมืองที่เป็นการแสดงออกซึ่งเจตจำานงหรือ

             ความต้องการของประชาชน ในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง การเลือกตั้งจึงเป็นส่วนสำาคัญในการ
             สร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นกับระบอบการเมือง

                        ประการที่สอง การเลือกตั้งเป็นกระบวนการทางการเมืองที่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลและ

             การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยเป็นเครื่องมือสำาคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยสันติวิธี
             ก่อให้เกิดการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านอำานาจป้องกันการผู้กอำานาจและการฉ้อราษฎร์บังหลวง ในแง่นี้

             การเลือกตั้งเป็นการตัดสินใจของผู้มีสิทธิออกเสียงหรือประชาชนในรัฐอันที่จะกำาหนดรัฐบาล

                        ประการที่สาม การเลือกตั้งเป็นกลไกสำาคัญที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันทางการเมืองกับประชาชน
             หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเป็นกลไกที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างโครงสร้างส่วนบน (Super structure)

             อันประกอบด้วยรัฐสภา รัฐบาลและศาล กับโครงสร้างส่วนล่าง (Infar structure) ซึ่งก็คือประชาชน โดย
             ผ่านการมีส่วนร่วมทางการเมือง ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นเสียงสะท้อนถึงความคิด ความเชื่อ และทัศนคติ
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46