Page 38 - kpiebook63032
P. 38
37
5. ระบบการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเพียงอย่างเดียว (Part-list system, PS) ระบบการเลือกตั้ง
แบบบัญชีรายชื่ออย่างเดียว (PS) มีลักษณะสำาคัญคือ 1) อาจใช้ทั้งประเทศเป็นเขตเลือกตั้งเพียงเขตเดียว
ก็ได้ หรืออาจแบ่งประเทศเป็นเขตเลือกตั้งใหญ่ๆ เพียงไม่กี่เขต โดยที่แต่ละเขตมีผู้แทนได้จำานวนมาก
2) พรรคการเมืองทั้งหลายจัดทำาบัญชีรายชื่อผู้สมัครของพรรคตนตามจำานวนที่กฎหมายต้องการเสนอให้
ผู้เลือกตั้งโดยเรียงลำาดับชื่อที่มีความสำาคัญจากมากสุดไปน้อยสุด 3) ผู้เลือกตั้งเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง
เพียงพรรคเดียว 4) แต่ละพรรคได้ส่วนแบ่ง ส.ส.ตามสัดส่วนของคะแนนที่พรรคได้รับผู้เลือกตั้ง 5) บางประเทศ
อาจตั้งเกณฑ์ขั้นตำ่าเอาไว้เพื่อกันพรรคที่มีขนาดเล็กเกินไปหรือมีนโยบายสุดขั้วออกไปจากการแบ่งสัดส่วน
เช่น ถ้าได้คะแนนไม่ถึง 5% ของคะแนนทั้งหมด เป็นต้น (สมเกียรติ วันทะนะ, 2558)
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมกำรเลือกตั้ง
การเลือกตั้งเป็นการแสดงออกทางการเมืองโดยมีปัจจัยแวดล้อมเป็นตัวกำาหนด นัยสำาคัญ
ดังกล่าวนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความตั้งมั่นในกิจกรรมและการมีส่วนร่วมของประชาชนภายใต้
บริบทแวดล้อมที่สามารถทำาให้การแสดงออกทางพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา ตลอดจนเป็น
สิ่งที่เป็นเกณฑ์ใช้สำาหรับตัดสินใจลงคะแนนเสียง ดังนั้นพฤติกรรมการเลือกตั้งจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจในแง่
การเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์ทางการเมือง ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา การแสดงออก
ทางการเลือกตั้งย่อมได้รับผลกระทบในหลากหลายมิติ ซึ่งสมพันธ์ เตชะอธิก และคณะ (2553) อธิบายว่า
พฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้งเป็นพฤติกรรมทางการเมืองอันเป็นรูปแบบของการมีส่วนร่วมทางการเมือง
อย่างหนึ่ง การศึกษาพฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในระบบการเมืองต่างๆ นั้น แง่มุมหนึ่งนับได้ว่า
เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำาความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตย เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับกระบวนการปกครองได้รับการกล่าวถึง
ว่าเป็นหัวใจของกิจกรรมทางการเมืองทุกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย
นักรัฐศาสตร์หลายท่านได้ให้ข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งในปัจจุบันนับวันแต่จะมีความซับซ้อนหรือมีปัจจัย
ที่เกี่ยวเนื่องมากขึ้น มีการใช้เทคนิคและกุศโลบายต่างๆ เพื่อมุ่งหมายชัยชนะทางการเมืองมากขึ้น รวมทั้ง
มีการใช้เงินในการเลือกตั้งเป็นจำานวนมาก นักรัฐศาสตร์ได้พยายามศึกษาอะไรเป็นปัจจัยที่มีต่อการตัดสิน
ทางการเมืองของผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อหาเหตุผลหรือปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังพฤติกรรมการลงคะแนน
ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และนำาไปเสนอต่อสาธารณะ เพื่อให้นักการเมือง ประชาชน ผู้มีส่วนได้เสียทราบทั่วกัน
ในเชิงแนวคิดทฤษฎี สุจิต บุณบงการ และพรศักดิ์ ผ่องแผ้ว (2527) กล่าวไว้ว่า นักสังคมศาสตร์โดยมาก
คือกลุ่มนักสังคมวิทยาและนักรัฐศาสตร์ได้แบ่งทฤษฎีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. ทฤษฎีปัจจัยตัวกำาหนด (Deterministic theory) ความพยายามที่จะทำาความเข้าใจความสัมพันธ์
ระหว่างประชาชนกับการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตย โดยมุ่งไปที่พฤติกรรมการลงคะแนนเสียง
เลือกตั้ง ซึ่งนับวันจะมีความซับซ้อนหรือมีปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องมากขึ้น ทั้งนี้ ได้พยายามศึกษาว่า อะไรเป็น
ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อหาเหตุผลหรือ ปัจจัยที่อยู่เบื้องหลัง