Page 35 - kpiebook63032
P. 35

34       การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสระแก้ว








                      8. การนับคะแนนและประกาศผลการเลือกตั้งโดยถูกต้องและเปิดเผย (Accurate counting of

             choices and reporting of results) ในการเลือกตั้งที่จะเรียกได้ว่าเสรี กระบวนการลงคะแนน การนับ
             คะแนนและการประกาศผลต้องดำาเนินการโดยเปิดเผยต่อสาธารณะ (แม้การขีดลงคะแนนจะเป็นความลับ

             เฉพาะตัวของผู้เลือก) ทั้งนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนที่ถูกต้องที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละคนได้รับและ
             นำาไปสู่การประกาศผลที่ถูกต้องว่าใครคือผู้ชนะการเลือกตั้งหรือเป็นผู้ได้รับเลือก




                     หน้ำที่ของกำรเลือกตั้ง


                      สมเกียรติ วันทะนะ (2558) อธิบายหน้าที่ของการเลือกตั้งว่า การเลือกตั้งเป็นเงื่อนไขที่จำาเป็น
             (Necessary condition) สำาหรับการดำารงอยู่ของประชาธิปไตย แม้จะไม่ใช่เงื่อนไขทีเพียงพอ (Sufficient

             condition) ก็ตาม ความหมายของประโยคนี้คือลำาพังเพียงการเลือกตั้งมิได้เป็นหลักประกันว่าจะต้อง
             มีประชาธิปไตย (เพราะประชาธิปไตยต้องการองค์ประกอบหลายอย่างหรือมากกว่าการเลือกตั้งเพียง

             อย่างเดียว) แต่ถ้าขาดการเลือกตั้งเสียแล้ว เราก็ไม่จำาเป็นต้องพูดถึงประชาธิปไตยอีกต่อไป (การเลือกตั้ง
             เป็นองค์ประกอบที่จำาเป็นสำาหรับประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดมิได้)


                      ในโลกสมัยใหม่โจเซฟ จุมปีเตอร์ (Schumpeter, 1883-1950) ผู้เขียนหนังสือ Capitalism,

             Socialism and Democracy (1942) ให้ความสำาคัญกับการเลือกตั้งอย่างยิ่ง โดยถือเป็นหัวใจของระบอบ
             ประชาธิปไตยทีเดียว แต่การเลือกตั้งมีความแตกต่างกันอย่างมากในตัวของมันเอง ดังนั้นจึงเป็นการยาก

             ลำาบากที่จะสรุปว่า การเลือกตั้งเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือของประชาธิปไตยแต่อย่างเดียว ในทางปฏิบัติ
             เราอาจจำาแนกหน้าที่ (Functions) ของการเลือกตั้งได้ดังนี้ (Heywood, 2013)


                      1. บรรจุนักการเมืองเข้าดำารงตำาแหน่ง (Recruiting politicians) ในรัฐที่เป็นประชาธิปไตย

             ตำาแหน่งสำาคัญๆ ของระบอบการเมือง (ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร) ต้องให้ผู้ผ่านการเลือกตั้ง
             เข้าดำารงตำาแหน่ง เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังหน้าที่ดังกล่าวของการเลือกตั้งก็คือ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

             ทั้งปวงเป็นเจ้าของอำานาจอธิปไตย ดังนั้น พวกเขาจึงต้องเป็นคนตัดสินใจว่าใครมีความเหมาะสมที่จะ
             เข้าไปทำาหน้าที่ด้วยการดำารงตำาแหน่งเหล่านั้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการเลือกตั้ง ตำาแหน่งที่ต้องการมาจาก

             การเลือกตั้งจึงมักเป็นตำาแหน่งที่เกี่ยวกับนโยบายในการปกครองประเทศอย่างกว้างๆ และด้วยเหตุผลนี้
             ประเทศต่างๆ จะไม่ใช้การเลือกตั้งกับตำาแหน่งที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น ข้าราชการ

             พลเรือนและตุลาการ เป็นต้น


                      2. จัดตั้งรัฐบาล (Making governments) การเลือกตั้งในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส
             ซึ่งผู้บริหารหรือประธานาธิบดีได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง การเลือกตั้งดังกล่าวจึงเป็นกลไก

             ในการตัดตั้งรัฐบาลในคราวเดียวกัน แต่ในประเทศอื่นๆ ที่ใช่ระบบรัฐสภา การเลือกตั้งก็เป็นกลไกในการจัดตั้ง
             รัฐบาลเหมือนกัน แต่เป็นการจัดตั้งรัฐบาลทางอ้อม กล่าวคือผู้ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ในรัฐสภาจะได้

             เป็นผู้นำาฝ่ายบริหารหรือที่เรียกกันว่าเป็นรัฐบาล ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นระบบใด ถ้าหากเป็นรัฐบาลที่เป็น
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40