Page 47 - kpiebook63031
P. 47
การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
46 จังหวัดอุบลราชธานี
จะเห็นได้ว่าในการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้อุปถัมภ์และผู้รับอุปถัมภ์ ผู้อุปถัมภ์มีส่วนได้เปรียบอยู่
ในเนื้อแท้ของความสัมพันธ์ (คือมีฐานอำานาจในการต่อรองสูงกว่า) ทั้งนี้เพราะผู้อุปถัมภ์จะเป็นหนึ่งใน
ไม่กี่คนที่มีทรัพยากรมากเพียงพอที่จะจ่ายให้ลูกน้องจนพอใจได้ ดังนั้นผู้อุปถัมภ์จึงเป็นผู้เลือกว่าจะให้
การอุปถัมภ์แก่ใครและเป็นผู้กำาหนดว่าผู้รับอุปถัมภ์ควรให้บริการอะไรแก่ตน
การที่ผู้อุปถัมภ์จะได้เปรียบมากน้อยเพียงไร หรือผู้รับการอุปถัมภ์จะถูกเอาเปรียบมากน้อย
เพียงไร ย่อมขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของสิ่งของที่ผู้รับอุปถัมภ์ประสงค์ประการหนึ่ง และอุปสงค์
อุปทานของสิ่งที่ผู้อุปถัมภ์ต้องการจากผู้รับอุปถัมภ์ประการหนึ่ง เช่น ถ้าหากมีแหล่งเงินกู้มากมายและ
มีเงินกู้เพียงพอ ในความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ระหว่างเจ้าของเงินกู้กับลูกหนี้ ผู้รับอุปถัมภ์ก็จะได้รับ
การปฏิบัติอย่างดีจากผู้อุปถัมภ์ (เพื่อดึงดูดผู้รับอุปถัมภ์ไว้) หรือกรณีการเลือกตั้งผู้รับอุปถัมภ์อาจได้รับ
การปฏิบัติต่ออย่างดี เพราะคะแนนเสียงของเขามีความสำาคัญต่อผู้อุปถัมภ์ เป็นต้น
โดยทั่วไปจะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆ ได้ ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ตามความหมายในอุดมคติคือ
การที่ผู้อุปถัมภ์คอยปกป้องคำ้าจุนผู้รับอุปถัมภ์ ผู้รับอุปถัมภ์ก็จะทำางานรับใช้ให้บริการแก่ผู้อุปถัมภ์เป็น
การแสดงความกตัญญู คำาสามัญใช้เรียกผู้อุปถัมภ์ (patron) และผู้รับอุปถัมภ์ (client) ก็เป็นคำาในระบบ
ครอบครัว คือ “ลูกพี่” และ “ลูกน้อง” ดังนั้น บทบาทในอุดมคติของผู้อุปถัมภ์ (patron) กับผู้รับอุปถัมภ์
(client) ก็คือ บทบาทของบิดากับบุตร หรือพี่กับน้องนั่นเอง
โดยคำาจำากัดความตามระบบอุปถัมภ์ ผู้ได้ประโยชน์มากคือผู้อุปถัมภ์ แต่ผู้อุปถัมภ์จะต้อง
รับผิดชอบต่อการกินดีอยู่ดีของผู้รับอุปถัมภ์ด้วย กฎแห่งศีลธรรมของระบบอุปถัมภ์คือ การตอบแทน
ซึ่งกันและกันเป็นหลักสำาคัญ แต่ปัจจุบันนี้การเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อยู่ในฐานะที่ด้อยกว่ามีมากขึ้น
ผลที่จะเกิดตามมาก็อาจเป็นการรวมตัวของชนชั้นผู้รับอุปถัมภ์เพื่อช่วยเหลือตนเอง ซึ่งมีลักษณะของ
การเกิดชั้นทางสังคม
3.1 ลักษณะของควำมสัมพันธ์แบบผู้อุปถัมภ์และผู้รับอุปถัมภ์
หากเราต้องการที่จะวิเคราะห์โครงสร้างที่ใหญ่กว่าสายสัมพันธ์เพียงสายเดียวระหว่างผู้อุปถัมภ์
และผู้รับอุปถัมภ์ซึ่งรวมเอาสายสัมพันธ์เช่นที่กล่าวข้างต้นหลายสายด้วยแล้ว จะต้องพิจารณาคำาศัพท์
สองคำาที่สำาคัญ (เจมส์ ซี สกอตต์, 2545, น. 57-58)
ประการแรกเมื่อเราพูดถึงผู้ติดตามที่ใกล้ชิดของผู้อุปถัมภ์ในลักษณะของผู้รับอุปถัมภ์ที่ผูกพัน
กับเขาโดยตรง เราจะเรียกว่าผู้อุปถัมภ์และผู้รับอุปถัมภ์แบบกลุ่ม (patron-client cluster)
ส่วนคำาศัพท์ที่สองขยายขนาดเพิ่มจากกลุ่ม (cluster) แต่ยังคงมีศูนย์กลางอยู่ที่บุคคลเดียวและ
มีสายสัมพันธ์ตามแนวตั้งเรียกว่า ผู้อุปถัมภ์และผู้รับอุปถัมภ์แบบปิรามิด (patron – client pyramid)
ลักษณะของทั้งสองแบบอาจแสดงได้ดังนี้