Page 45 - kpiebook63031
P. 45

การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
           44       จังหวัดอุบลราชธานี







                      4.  ความสัมพันธ์นี้ ประกอบด้วยบุคคลเพียงสองคน ดังนั้นผลประโยชน์ที่แลกเปลี่ยนกัน

                          จึงเป็นผลประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงเป็นการส่วนตัว เช่น การเอื้อผลประโยชน์ต่อกันระหว่าง
                          เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำานาจที่จะให้ผลประโยชน์เฉพาะอย่างแก่พ่อค้าได้ และพ่อค้าก็จะให้

                          สิ่งของหรือเงินเป็นการแลกเปลี่ยนต่อการได้รับสิทธิบางอย่างจากเจ้าหน้าที่นั้น ในส่วนที่
                          เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางการเมือง

                          ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากโครงสร้างทางการเมืองแบบกลุ่ม กล่าวคือ


                         4.1  ระบบนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำาแต่เพียงฝ่ายเดียว (ผู้อุปถัมภ์)

                         4.2  การก่อตัวและโครงสร้างของระบบ จะมีผู้นำาเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ใช่กลุ่มผู้นำาเป็นคนที่
                             ทำาให้เกิดความสัมพันธ์


                         4.3 ความสัมพันธ์ในระบบนี้ เป็นความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง และเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง
                             คนสองคน ในความสัมพันธ์แบบผู้อุปถัมภ์และลูกน้องนี้ ถ้าจะมีความรู้สึกร่วมกันระหว่าง
                             ลูกน้อง ก็เป็นเพราะว่าเขาต่างถือว่ามีนายคนเดียวกัน


                         4.4 ผลประโยชน์ที่ทำาให้ผู้อุปถัมภ์และลูกน้องมีความสัมพันธ์ต่อกัน เป็นความสัมพันธ์
                             เฉพาะเจาะจงมากกว่าผลประโยชน์ร่วมแบบกลุ่ม วัตถุประสงค์ที่ผู้อุปถัมภ์และลูกน้อง

                             คงความสัมพันธ์ต่อกันไว้ ได้แก่ การแสวงหาผลประโยชน์ของแต่ละคน

                         4.5  ผลประโยชน์ที่แต่ละคนแสวงหา ผันแปรไปตามความแตกต่างทางฐานะและอำานาจ เช่น
                             ผู้อุปถัมภ์ต้องการอำานาจ และชื่อเสียงเกียรติยศ ส่วนลูกน้องต้องการความคุ้มครองและ

                             เงิน เป็นต้น

                         4.6  สายใยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างผู้อุปถัมภ์กับลูกน้องแต่ละคน ขึ้นอยู่กับการตอบแทน

                             ซึ่งกันและกัน โดยแต่ละฝ่ายต้องพยายามทำาให้อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า เขายังมีค่าแก่การที่
                             เป็นผู้อุปถัมภ์หรือลูกน้อง

                         4.7  ความสัมพันธ์แบบนี้ มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงค่อนข้างสูง และไม่มั่นคง


                         4.8 ความสัมพันธ์แบบนี้ มักประกอบไปด้วย การมีลูกน้องมากมายหลายชั้น ตั้งแต่ชั้นที่
                             ใกล้ชิดผู้อุปถัมภ์มากที่สุดไปจนถึงผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกันเพียงเล็กน้อย ลูกน้องที่ใกล้ชิด
                             เจ้านายมากก็มักจะมีลูกน้องของตนเองด้วย ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้อุปถัมภ์ย่อยๆ เช่นกัน




                      ส่วน Barend J. Terwiel (1984) ได้นำาเสนอความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ในสังคมไทย
             ความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ไม่ใช่เรื่องของความถูกต้องหรือไม่ถูกกฎหมาย เมื่อผู้อุปถัมภ์หรือผู้ถูกอุปถัมภ์

             ไม่ได้ทำาตามหน้าที่ก็ไม่สามารถนำามาลงโทษตามกฎหมายได้ โดยอุดมการณ์แล้ว ผู้อุปถัมภ์นั้นเป็นผู้ปกป้อง
             คุ้มครอง ให้ความมั่นใจ และความเชื่อมั่นแก่ผู้ถูกอุปถัมภ์ และในขณะเดียวกันผู้ถูกอุปถัมภ์ก็ต้องซื่อสัตย์

             เชื่อฟัง และให้ความช่วยเหลือผู้อุปถัมภ์โดยไม่ต้องขอร้อง รูปแบบของผู้อุปถัมภ์กับผู้ถูกอุปถัมภ์ มีการ
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50