Page 39 - kpiebook63023
P. 39

39








                  ไม่สามารถทำาได้อย่างครบถ้วนรอบด้าน เพราะสมาชิกสภาที่มีอยู่เป็นจำานวนมากอาจมีความรู้ความเข้าใจ

                  ในแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน เนื่องจากมีภูมิหลังและความสนใจที่ต่างกัน ในกรณีเช่นนี้ อาจทำาให้สภาท้องถิ่นนั้นๆ
                  มีการจัดโครงสร้างของสภาท้องถิ่นออกเป็นคณะกรรมาธิการชุดย่อยๆ ตามภารกิจหน้าที่ที่องค์กรปกครอง

                  ส่วนท้องถิ่นนั้นรับผิดชอบ โดยที่สมาชิกสภาท้องถิ่นแต่ละคนก็จะสามารถเลือกที่จะไปทำาหน้าที่เป็นกรรมาธิการ
                  ในแต่ละด้านตามความสนใจและความถนัดของตน ซึ่งลักษณะการจัดโครงสร้างการปกครองท้องถิ่นแบบนี้

                  เคยเป็นรูปแบบหลักของการจัดการปกครองท้องถิ่นของประเทศอังกฤษในช่วงก่อนการปฏิรูปครั้งใหญ่ในช่วงปี
                  ค.ศ. 2000 (Byrne, 1994, p. 217) หรือในกรณีของสุขาภิบาลของไทยในอดีต ภายใต้พระราชบัญญัติสุขาภิบาล

                  พ.ศ. 2495 ก็มีรูปแบบการบริหารงานในรูปของคณะกรรมการนี้เช่นกัน (ชูวงศ์ ฉายะบุตร, 2539, น. 171-173)


                          โครงสร้างการบริหารงานของท้องถิ่นในรูปของคณะกรรมการ มีข้อดีอยู่ตรงที่ไม่มีการแบ่งแยกโครงสร้าง
                  ออกเป็นฝ่ายสภาและฝ่ายบริหาร ซึ่งในกรณีที่โครงสร้างของสภามีขนาดไม่ใหญ่และไม่มีการจัดแบ่งโครงสร้าง

                  ออกเป็นคณะกรรมาธิการชุดย่อยๆ นี้ ก็จะทำาให้ไม่เกิดปัญหาความไม่ลงรอยหรือความขัดแย้งในการบริหาร
                  งานท้องถิ่นโดยไม่จำาเป็น หากสภาท้องถิ่นมีขนาดเล็ก การจัดโครงสร้างให้มีแต่สภาท้องถิ่นยังช่วยให้ใน

                  ทางการบริหารอาจมีความประหยัด เพราะไม่ต้องมีการจ้างพนักงานประจำามากนักมาทำางานสนับสนุนสภาท้องถิ่น
                  การบริหารงานในลักษณะตัวแบบนี้ จึงดูเหมือนจะมีความเหมาะสมกับท้องถิ่นที่มีลักษณะเป็นชุมชนท้องถิ่น

                  ที่มีขนาดไม่ใหญ่โตนักเสียมากกว่า อย่างไรก็ดี การบริหารงานภายใต้ตัวแบบนี้ อาจมีข้อจำากัดในแง่ที่ไม่มี
                  การแบ่งแยกบทบาทหน้าที่ให้ชัดเจนว่าใครทำาหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารงานของท้องถิ่น ทำาให้ไม่มีความชัดเจน

                  ในประเด็นเกี่ยวกับความรับผิดรับชอบต่อประชาชน และหากว่าสภาท้องถิ่นมีขนาดใหญ่จนต้องแบ่งการทำาหน้าที่
                  ออกเป็นกรรมาธิการแต่ละด้านแล้ว ความขัดแย้งไม่ลงรอยระหว่างกรรมาธิการแต่ละคณะก็อาจมีแนวโน้มที่จะ

                  เกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน (ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์, 2544, น. 120-121)

                          รูปแบบสภาและผู้จัดการ (Council – Manager Form) เป็นรูปแบบในการบริหารงานของ

                  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความแพร่หลายอย่างมากในการบริหารงานขององค์กรปกครอง

                  ส่วนท้องถิ่นในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการประมาณการว่ามีเมือง (Cities) ในสหรัฐอเมริกาเกือบ 2,500 แห่ง ที่ใช้
                  รูปแบบการบริหารงานแบบสภาและผู้จัดการนี้ (Kemp, 2007, p. 70) หลักการสำาคัญของการบริหารงาน
                  ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปของสภาและผู้จัดการ ก็คือ การใช้นักบริหารงานที่มี “ความเป็นมืออาชีพ

                  (Professional)” มาทำาหน้าที่ในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะหากเปรียบเทียบภารกิจ

                  ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลรับผิดชอบ ตลอดจนงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว สิ่งที่
                  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องดูแลรับผิดชอบนั้นมีมากไม่แพ้บริษัทหรือองค์กรเอกชนขนาดใหญ่เลยทีเดียว


                          ภายใต้รูปแบบการบริหารงานนี้ สภาท้องถิ่นจะเป็นโครงสร้างที่ได้รับการเลือกตั้งมาโดยตรงจากประชาชน
                  ในท้องถิ่น โดยสภาท้องถิ่นจะมีบทบาทหน้าที่ในการกำาหนดทิศทางนโยบายสำาหรับการบริหารงานของท้องถิ่น

                  กับการทำาหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบข้อบัญญัติต่างๆ ที่จะประกาศใช้ในเขตท้องถิ่น นอกจากนั้น สภาท้องถิ่น

                  ยังมีบทบาทในการสรรหานักบริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ เข้ามาทำาหน้าที่เป็น “ผู้จัดการ (Manager)”
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44