Page 43 - kpiebook63023
P. 43

43








                  เป็นผู้บริหารของสุขาภิบาลตามลำาดับ นอกจากนั้นแล้วในมิติอำานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

                  เรายังจะเห็นอีกด้วยว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีอำานาจหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะอยู่อย่างจำากัดมาก
                  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับภารกิจของราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในขณะนั้น (วุฒิสาร

                  ตันไชย, 2557, น. 32)


                          กระแสของความตื่นตัวเรื่องการกระจายอำานาจและการปกครองท้องถิ่นในประเทศไทยที่เกิดขึ้น
                  อย่างจริงจังและต่อเนื่องได้เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นในช่วงหลังเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้อง

                  มิให้มีการสืบทอดอำานาจทางการเมืองของกองทัพในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535 โดยภายหลังการชุมนุมสิ้นสุดลง
                  ได้เกิดกระแสให้มีการปฏิรูปการเมืองเพื่อให้การเมืองไทยมีความเป็นประชาธิปไตยที่มั่นคงยั่งยืน โดย

                  ในการเรียกร้องเพื่อการปฏิรูปการเมืองนั้น ได้มีข้อเสนอจากฟากฝั่งของพรรคการเมืองให้มีการกระจายอำานาจ
                  สู่ท้องถิ่น รวมทั้งพรรคการเมืองจำานวนหนึ่งยังเสนอให้มีการกระจายอำานาจด้วยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด

                  อีกด้วย (ธเนศวร์ เจริญเมือง, 2540, น. 96-97)

                          อย่างไรก็ตาม แม้กระแสของการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดจะไม่ได้รับการผลักดันให้

                  เกิดขึ้นจริง แต่ผลของการเรียกร้องในครั้งนั้นก็นับได้ว่าทำาให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องการกระจายอำานาจอย่างมาก

                  กระทรวงมหาดไทยเองได้ตัดสินใจในการตอบสนองต่อการเรียกร้องเรื่องการกระจายอำานาจโดยการผลักดันให้มี
                  “พระราชบัญญัติสภาตำาบลและองค์การบริหารส่วนตำาบล พ.ศ. 2537” ขึ้น ซึ่งผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำาให้
                  ต้องมีการยกฐานะสภาตำาบลที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำาหนดให้เป็นสภาตำาบลและองค์การบริหารส่วนตำาบล

                  ที่เป็นนิติบุคคล และมีฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำาให้ในเวลาต่อมาองค์การบริหารส่วนตำาบล

                  จึงได้กลายเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขั้นพื้นฐานของประเทศไทย (ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์, 2555, น. 40)




                          รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 กับการกระจายอ�านาจสู่ท้องถิ่น


                          การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองได้นำาไปสู่การผลักดันให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นก็คือ

                  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นอกจากจะเป็นกลไกสำาคัญที่นำาไปสู่
                  การปฏิรูปทางการเมืองแล้ว รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังมีบทบาทอย่างสำาคัญต่อการกระจายอำานาจและการปฏิรูป

                  การปกครองท้องถิ่นของไทยอีกด้วย โดยในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญได้มีบทบัญญัติอย่างน้อย 10 มาตรา ที่บัญญัติถึง
                  การปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำานาจเอาไว้เป็นการเฉพาะ โดยหลักการและสาระสำาคัญ รัฐธรรมนูญได้

                  บัญญัติให้รัฐต้องให้ความเป็นอิสระแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยการกำากับดูแลต้องทำาเท่าที่จำาเป็น และใน
                  มิติเชิงโครงสร้าง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมีโครงสร้างของสภาและฝ่ายบริหารที่มาจากการเลือกตั้งของ

                  ประชาชนมิใช่ข้าราชการประจำาดังในอดีต นอกจากนั้น ประชาชนในท้องถิ่นยังสามารถมีส่วนร่วมทางการเมือง
                  นอกไปจากการเลือกตั้งโดยการริเริ่มเสนอข้อบัญญัติของท้องถิ่น และการถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและ

                  ผู้บริหารของท้องถิ่นได้อีกด้วย (ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์, 2555, น. 40-41)
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48