Page 45 - kpiebook63014
P. 45

44     การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562
                  จังหวัดสุรินทร์






             ขั้นตอนแรกอาจนำาไปสู่ระบบการเมืองประชาธิปไตยแบบไม่เสรี ที่เน้นการเข้าสู่อำานาจโดยการเลือกตั้งเป็นหลัก

             ขั้นตอนนี้อาจอยู่ยาวนานโดยไม่เกิดขั้นตอนที่สองคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ข้อคิดเห็น
             ดังกล่าวสอดคล้องกับข้อคิดเห็นและทัศนะของนักวิชาการในแวดวงรัฐศาสตร์ที่เสนอว่าในกระบวนการ

             เปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย ในบทความ Democratic society and its enemies ที่เขียนโดย Arblaster
             (อ้างใน Haynes, 2005, 38) อธิบายว่าในช่วงคลื่นลูกที่ 3 ของประชาธิปไตย (กลางทศวรรษที่ 1970 – กลาง

             ทศวรรษที่ 1990) การเปลี่ยนจากประเทศเผด็จการอำานาจนิยมสู่ประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่บ่อยครั้งไม่ราบรื่น
             ไม่ทันทีทันใด หรือไม่สมบูรณ์ หรือดังที่ Schedler ในบทความเรื่อง The menu of manipulation. Election

             without democracy (อ้างใน Haynes, 2005, 38) ตั้งข้อสังเกตว่ามีประเทศในระบอบประชาธิปไตยระยะ
             ผ่านจำานวนมากที่อาจอยู่ในระยะผ่านในระยะที่ยาวนาน กล่าวคือไม่เป็นทั้งประชาธิปไตยที่ชัดเจน หรือ

             อำานาจนิยมอย่างเต็มรูปแบบ กล่าวโดยสรุปนักวิชาการจำานวนมากได้ตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการทำาให้
             เป็นประชาธิปไตย (process of democratization) จะผ่านขั้นตอน 4 ขั้นตอนดังนี้ (Haynes, 2005, p.39)


                      1.  การมีเสถียรภาพทางการเมือง ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อแตกหักกับเผด็จการอำานาจนิยม

                          หรือกล่าวอีกอย่างคือ กระบวนการปฏิรูประบอบอำานาจนิยมด้วยการให้เสรีภาพทาง
                          การเมืองเกิดขึ้น


                      2.  เมื่อแตกหักจากกระบวนการปฏิรูประบอบอำานาจนิยมแล้ว ก็จะนำาไปสู่การล่มสลายของ
                          ระบอบอำานาจนิยม


                      3.  การเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย โดยมีหลักหมายที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือ การเลือกตั้งที่นำา

                          ไปสู่รัฐบาลใหม่


                      4.  การสร้างประชาธิปไตยที่มั่นคง (Democratic consolidation) เป็นกระบวนการที่ภาคส่วน
                          ต่างๆ ทั้งในกลุ่มชนชั้นนำาและประชาชนทั่วไปเห็นพ้องกันว่าระบอบประชาธิปไตย เป็น

                          หนทางในการดำาเนินการ/กิจกรรมทางการเมืองที่ดีที่สุด (the best way of ‘doing’ politics)


                      ความยากลำาบากในการเปลี่ยนผ่านคือในขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนที่หลายประเทศในระบอบ
             ประชาธิปไตยระยะผ่านติดหล่มอยู่เป็นเวลายาวนาน โดยที่อาจนำาระบอบการเมืองเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย

             แบบไม่เสรี เพราะหลังจากที่ริเริ่มเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่าน จากกฎเกณฑ์กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
             แรงผลักดันของการปฏิรูปการเมืองในขั้นตอนที่ 1 อาจจะไม่ถูกรักษาไว้ ประเทศหลังเผด็จการอำานาจ

             นิยมสามารถที่จะเส้นทางทางการเมืองที่จะเดินไปได้หลายทิศทาง บ่อยครั้งที่ระบอบของประเทศหลัง
             เผด็จการอำานาจนิยมจะมีระบอบพันธุ์ผสม ที่มีการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมผสมกับการมีรัฐบาลที่รวม

             ศูนย์อำานาจ รวมทั้งประเทศที่เคลื่อนจากกฎเกณฑ์ของระบอบอำานาจนิยมเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่าน
             สู่ประชาธิปไตยมักถูกทำาให้ต้องพัฒนาและรวมตัวเองเข้าสู่วิถีประชาธิปไตยทางการเมือง อย่างไรก็ตาม

             ประเทศเหล่านี้อาจมีคุณลักษณะของระบบการเมืองที่ขาดความเป็นสถาบันที่เกิดจากพัฒนาการของ
             โครงสร้างในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีสาเหตุดังนี้
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50