Page 90 - kpiebook63013
P. 90

90    การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562  จังหวัดสุราษฎร์ธานี








                      พฤติกรรมของตัวกระท�าทางการเมืองในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6


                      จากการสัมภาษณ์พบว่าสถานการณ์และบรรยากาศในช่วงก่อนการเลือกตั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6 นั้น

             ค่อนข้างเป็นบรรยากาศที่มีเสรีภาพและเอื้อต่อการแข่งขันอย่างเป็นธรรมตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
             ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลว่ากลุ่มการเมืองต่าง ๆ ในพื้นที่ (กลุ่มคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ) ไม่มีการเคลื่อนไหว

             กดดันหรือใช้อิทธิพลใด ๆ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคน
             ยังระบุตรงกันว่าโดยส่วนตัวแล้ว ไม่พบว่ามีผู้สมัครหรือหัวคะแนนใช้เงินในการจูงใจเพื่อให้ไปเลือกผู้สมัครคนใด

             คนหนึ่ง ประกอบกับผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคน ยังให้ข้อมูลอีกว่าไม่พบการใช้อิทธิพลหรือผลประโยชน์หรือการกระทำาใด
             (ที่ไม่ใช่ตัวเงิน) เพื่อจูงใจให้เลือกผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐทั้งที่เป็นข้าราชการในพื้นที่

             และข้าราชการสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้งโดยตรงนั้น
             ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่าเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านั้นวางตัวและทำาหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง

             มีการสนับสนุนรณรงค์ให้ประชาชนออกไปเลือกตั้งและปฏิบัติตนไปตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน

                      สำาหรับรูปแบบการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละพรรค ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ข้อมูลตรงกันว่าการเลือกตั้ง

             ครั้งนี้ ผู้สมัครของแต่ละพรรคก็ได้ใช้รูปแบบวิธีหาเสียงแบบเดิมและไม่มีความแตกต่างกันในแต่ละพรรค กล่าวคือ

             ใช้รถแห่ ใบปลิว แผ่นป้าย การปราศรัย แต่วิธีการที่เพิ่มเข้ามาและแตกต่างจากการหาเสียงในการเลือกตั้ง
             ครั้งก่อน ๆ (ซึ่งผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ (90 เปอร์เซ็นต์) ได้พบเห็นวิธีการหาเสียงดังกล่าวนี้) คือ การใช้สื่อ
             ที่เรียกว่า Social Media ทั้ง Line, Facebook, การถ่ายทอดสด (live) โดยใช้แอพลิเคชั่น


                      ในประเด็นการตัดสินใจลงคะแนน ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ความเห็นว่าการใช้เงินจูงใจเพื่อให้เลือก

             ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งไม่มีผลต่อการตัดสินใจ แต่จะพิจารณาจากการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว การยึดมั่นใน

             พรรคการเมืองมากกว่า ส่วนการจูงใจโดยวิธีอื่นที่ไม่ใช้เงิน เช่น การจัดเลี้ยง การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
             ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ความเห็นตรงกันว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ขณะที่ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนน้อย (10 เปอร์เซ็นต์)
             แสดงความเห็นว่าหากมีผู้สมัครคนใดได้ทำาการอุปถัมภ์ช่วยเหลือตนเองหรือพี่น้องหรือคนในพื้นที่ของตนมา

             โดยตลอด เขาจะตอบแทนโดยการเลือกผู้สมัครท่านนั้น โดยให้เหตุผลว่า “เลือก เป็นการตอบแทน” และ “เลือก

             เพราะส่วนใหญ่จะดึง ๆ กันอยู่แล้ว” แต่ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ (90 เปอร์เซ็นต์) ตอบว่าแม้จะมีการช่วยเหลือ
             อุปถัมภ์กันมา แต่หากจะให้เลือกจะต้องมีเงื่อนไขอื่นด้วย เช่น “ถ้าเป็นพี่น้องก็จะเลือก” “ถ้าเป็นคนดีก็จะเลือก”
             “ไม่เลือก เพราะดูนโยบายพรรคเป็นหลัก” “ถ้าเลี่ยงได้จะเลี่ยง แต่ถ้าสังกัดพรรคที่เราชอบก็เลือก” “ถ้านโยบาย

             ไม่ดีก็ไม่เลือก”


                      จากการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมทางการเมืองก่อนที่จะมีการเลือกตั้งของประชาชนทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง
             ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีพบว่าปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและสังคมไม่ได้เป็นตัวกำาหนด

             พฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนมากนัก (ดังเช่นพฤติกรรมและทัศนะทางการเมืองของประชาชนในพื้นที่
             เขตเมืองที่มีสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูงกว่าพื้นที่อื่นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเขตเลือกตั้งอื่นที่เหลือกมากนัก

             หรือ การใช้เงินหรือสิ่งจูงใจที่ไม่ใช่เงินก็ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของประชาชนทั้งใน
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95