Page 85 - kpiebook63013
P. 85

85








                          ในประเด็นการตัดสินใจลงคะแนน ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคนให้ความเห็นว่าการใช้เงินจูงใจเพื่อให้เลือก

                  ผู้สมัครคนใดคนหนึ่งไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ส่วนการจูงใจโดยวิธีอื่นที่ไม่ใช้เงิน ผู้ให้สัมภาษณ์จำานวนครึ่งหนึ่ง
                  (50 เปอร์เซ็นต์) แสดงความเห็นว่าหากมีผู้สมัครคนใดได้ทำาการอุปถัมภ์ช่วยเหลือตนเองหรือพี่น้องหรือคนใน

                  พื้นที่ของตนมาโดยตลอด เขาจะตอบแทนโดยการเลือกผู้สมัครท่านนั้น โดยให้เหตุผลว่า “เลือก ตอบแทนเขา”
                  และ “ที่เขาช่วยเราแสดงว่าเขาเป็นคนดี” “คนที่มีนำ้าใจช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจะสามารถพัฒนาบ้าน

                  เมืองให้ดียิ่งขึ้นได้” แต่ผู้ให้สัมภาษณ์อีกครึ่งหนึ่งบอกว่าจะไม่เลือก เพราะ “การช่วยเหลือไม่ควรจะหวังผล”
                  “จะไม่รับการช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น มีสติปัญญาคิดเองได้ เงินไม่สามารถซื้อได้”





                          เขตเลือกตั้งที่ 5 : อ�ำเภอพระแสง, อ�ำเภอชัยบุรี, อ�ำเภอพนม,

                  อ�ำเภอบ้ำนตำขุน และอ�ำเภอเคียนซำ (เฉพำะต�ำบลบ้ำนเสด็จ)


                          ความตั้งมั่นของพรรคการเมือง


                          จากการสัมภาษณ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 5 สุราษฎร์ธานี ต่อคำาถามที่ว่า “สำาหรับท่าน อะไร

                  สำาคัญกว่า ระหว่างพรรคการเมืองกับตัวผู้สมัคร เพราะอะไร” พบว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ (70 เปอร์เซ็นต์)
                  ให้ความสำาคัญกับพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคลอย่างเห็นได้ชัด โดยให้เหตุผลว่า “พรรคการเมืองมีนโยบาย

                  ในการหาเสียง” “มีความมั่นใจในพรรคการเมือง” “พรรคการเมืองมีผลงาน” และ “หัวหน้าพรรคการเมือง
                  มีบทบาทมาก” ซึ่งแน่นอนว่าการให้การยอมรับและให้ความสำาคัญกับพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคลในการ

                  ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองในระดับหนึ่ง
                  และเมื่อพิจารณาจากคำาตอบก็สะท้อนให้เห็นว่า ในการรับรู้ของประชาชนนั้น พรรคการเมืองมีบทบาทสำาคัญ

                  ทั้งในแง่ของการดำาเนินกิจกรรมทางการเมืองภายใต้อุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน พรรคการเมืองเป็นสถาบัน
                  ที่ทำาหน้าที่ผลิตนโยบายต่าง ๆ และพรรคการเมืองสามารถทำาหน้าที่ได้จริง


                          แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือการให้ความเชื่อมั่นกับพรรคการเมืองในที่นี้อาจไม่ได้หมายถึงการมอบ

                  ความไว้วางใจต่อการทำาหน้าที่ของพรรคการเมืองในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสรรหาบุคคลเพื่อลงสมัคร
                  รับเลือกตั้ง ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่อธิบายว่าจะแม้จะนิยมและให้ความสำาคัญกับพรรคการเมืองแต่ก็ต้องใช้

                  วิจารณญาณส่วนตัวประกอบการตัดสินใจเลือกผู้สมัครด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้ไว้วางใจตัวบุคคล
                  ที่พรรคการเมืองได้คัดเลือกสรรหามาเพื่อลงรับสมัครเลือกตั้งเสมอไป ดังจะเห็นได้จากคำาถามที่ว่า “ถ้าพรรค

                  ที่ท่านชอบ ส่งผู้สมัครที่ท่านคิดว่าไม่เหมาะสม ท่านยังจะเลือกพรรคนั้นไหม” ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่
                  (70 เปอร์เซ็นต์) บอกว่าไม่เลือก ขณะที่ผู้ให้สัมภาษณ์ส่วนน้อย (30 เปอร์เซ็นต์) บอกว่าเลือก โดยให้เหตุผลว่า

                  “เลือก เพราะดูนโยบายกับหัวหน้าพรรค” “เลือก เพราะไม่เกี่ยวกับคน ชอบที่พรรค”
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90