Page 33 - kpiebook63013
P. 33

33








                  “มนุษย์ผู้มีเหตุผล” ของนักเศรษฐศาสตร์นั้น หมายความไปถึงมนุษย์ผู้ซึ่งพยายามมุ่งสู่เป้าหมายของเขา

                  ด้วยวิธีการใดเท่าที่เขาพอจะมีปัญญาคิดได้ โดยใช้ปัจจัยนำาเข้าจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำากัดให้น้อยที่สุด
                  ต่อผลที่มีค่าหนึ่งหน่วย (Downs, Anthony, 1957, p.5)


                          ตัวอย่างของพฤติกรรมที่มีเหตุผลในมุมมองของเศรษฐศาสตร์ก็เช่น นักบวชซึ่งมีเป้าหมายในการ

                  เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้การบรรลุเป้าหมายนั้นเป็นไปได้ นักบวชจะต้องทำาลายหรือตัดความคิดที่เต็มไปด้วย
                  ตรรกะเหตุผลและทำาลายสำานึกในการแสวงหาให้หมดสิ้น แม้การกระทำานั้นจะดูเหมือนไม่มีเหตุผล (เพราะนักบวช

                  ทำาลายเหตุผลและตรรกะทิ้ง) กระนั้น เราก็จะเห็นได้ว่าการทำาลายดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการกระทำาที่มีเหตุผลอยู่ดี
                  ดังนั้นแล้ว Downs จึงสรุปว่า พฤติกรรมของมนุษย์ผู้มีเหตุผล (rational man) จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ


                          1) เขาจะตัดสินใจเสมอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกต่าง ๆ


                          2) เขาจะจัดลำาดับทางเลือกต่าง ๆ ไปตามความพอใจของเขา ซึ่งจะมีบางทางเลือกที่เขาชอบมากกว่า

                  บางทางเลือกชอบน้อยกว่า

                          3) การจัดลำาดับนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง


                          4) เขาจะเลือกทางเลือกที่เขาจัดลำาดับไว้สูงสุด


                          5) เขายังจะเลือกทางเลือกนี้เสมอหากเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างกัน


                          อนึ่ง ผู้ตัดสินใจที่มีเหตุผลในตัวแบบของ Downs นั้น สามารถหมายความไปถึงพรรคการเมือง

                  กลุ่มผลประโยชน์ รัฐบาล ได้ทั้งสิ้น (โปรดดู Downs, Anthony, 1957, p.6)


                          ในกรณีของการเลือกตั้ง Downs อธิบายว่า หากมีสองพรรคการเมืองใหญ่ ประชาชนแต่ละคน
                  จะลงคะแนนให้พรรคที่เขาเชื่อว่าจะให้อรรถประโยชน์แก่เขาได้มากที่สุดมากกว่าพรรคอื่นในช่วงเวลาที่กำาลัง
                  จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป และเพื่อที่จะรู้ว่าควรจะเลือกพรรคไหน ประชาชนจะเปรียบเทียบอรรถประโยชน์

                  ระหว่างสองพรรคว่าถ้าได้เป็นพรรครัฐบาลแล้วเขาจะได้ประโยชน์อย่างไร ถ้าพรรคฝ่ายรัฐบาลสามารถจะให้

                  อรรถประโยชน์ให้มากกว่าพรรคฝ่ายค้าน เขาก็จะเลือกพรรคเดิมกลับเข้าไปเป็นรัฐบาลอีก แต่ถ้าพรรคฝ่ายค้านให้
                  อรรถประโยชน์ได้มากกว่าเขาก็จะเลือกฝ่ายค้าน แต่ถ้าหักลบแล้วเท่ากัน เป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่ลงคะแนนเสียง


                          สำาหรับผู้ออกเสียงที่มีเหตุมีผล เขาจะคำานวนถึงอรรถประโยชน์ที่จะได้ กล่าวคือ เมื่อคนคนหนึ่ง
                  ไปลงคะแนน นั่นหมายความว่า เขากำาลังตัดสินใจเลือกรัฐบาลที่จะปกครองเขาไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง

                  ครั้งต่อไป ดังนั้น เขาจะทำาการตัดสินใจโดยการเปรียบเทียบถึงการทำางานในอนาคตที่เขาคาดหวังไว้จาก

                  พรรคการเมืองทั้งสอง แต่ถ้าเขามีเหตุผลมากพอ เขาย่อมจะรู้ว่าไม่มีพรรคการเมืองใดที่สามารถจะทำาทุกอย่าง
                  ตามที่ได้หาเสียงไว้ ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถเปรียบเทียบคำาปราศรัยหรือนโยบายที่ใช้หาเสียงของทั้งสองพรรค
                  ได้อย่างเต็มที่ แต่เขาจะต้องประมาณไว้ในใจของตนเองว่าแต่ละพรรคจะทำาได้จริงแค่ไหนหากได้อยู่ในอำานาจ

                  (Downs, Anthony, 1957, p.39)
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38