Page 61 - kpiebook63010
P. 61
60 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 กรุงเทพมหานคร
การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งนั้นมีรากฐานมาจากแนวคิดในการศึกษาทางการเมืองที่เต็มไปด้วย
ความขัดแย้ง (contentious politics) มากกว่าเรื่องการแข่งขัน โดยการเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง
ในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ หรือทางศาสนา การประท้วงทางการเมือง สงครามกลางเมือง
อารยะขัดขืน การต่อต้าน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการปฏิวัติ โดยที่การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งนั้นหมายถึง
การต่อสู้แข่งขัน (contests) ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ (challenges) ที่มีต่อความชอบธรรม
(legitimacy) ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง กระบวนการเลือกตั้ง หรือผลของการเลือกตั้งเอง ซึ่งความท้าทายนี้
ก็มีหลายระดับตั้งแต่ในระดับที่ไม่มากนักไปจนถึงระดับที่รุนแรงมาก
การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งนี้จะเกิดขึ้นในสังคมที่มีความขัดแย้งในระดับร้าวลึก ซึ่งมี
ผลท้าทายไปที่ความชอบธรรมของหลายส่วน ได้แก่
1. ท้าทายความชอบธรรมของผู้ที่มีส่วนในการจัดการเลือกตั้ง (electoral actors) เช่น
การตั้งคำาถามไปที่เรื่องของความเป็นกลางของผู้จัดเลือกตั้ง
2. ท้าทายความชอบธรรมของกระบวนการเลือกตั้ง (electoral procedure) ทั้งวงจรของ
การเลือกตั้ง ตั้งแต่ความไม่เห็นด้วย/ไม่ลงรอยกันของความเห็นที่มีต่อกติกาการเลือกตั้ง อาทิ
การลากเส้นแบ่งเขตเลือกตั้ง การลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การลงทะเบียนผู้สมัครรับเลือกตั้ง
และการจด/ลงทะเบียนพรรคการเมือง สำานักงานพรรค การใช้จ่ายในการหาเสียง การกำากับสื่อ
การกำากับกติกาการลงคะแนน และการคำานวณคะแนนที่จะมีผลต่อการได้เก้าอี้ผู้แทน
3. ท้าทายความชอบธรรมของผลการเลือกตั้ง ที่จะมีผลต่อความชอบธรรมของผู้ชนะการเลือกตั้ง
ซึ่งในรายละเอียดก็รวมไปถึงตัวผู้นำาประเทศ ตัวผู้แทน และตัวพรรคการเมือง
กล่าวโดยสรุป การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง (contentious election) ตั้งคำาถามถึง
ความชอบธรรมของการเลือกตั้ง ขณะที่การเลือกตั้งแบบที่เข้าใจโดยทั่วไปคือการเลือกตั้งที่เป็นการแข่งขันเสรี
(competitive election) เป็นเรื่องของการตั้งคำาถามถึงผลการเลือกตั้ง และเชื่อว่าจะนำาไปสู่การเลือกตั้ง
ที่มีความสมานฉันท์ (consensual election) ที่ยอมรับทั้งกติกาและผลของการเลือกตั้ง
การศึกษาการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งทำาให้เราเห็นว่าการเลือกตั้งนั้นไม่เท่ากับประชาธิปไตย
แต่มีได้ในทุกระบอบรวมไปถึงเผด็จการและการปกครองแบบลูกผสม (hybrid regime) ทั้งนี้การเลือกตั้ง
ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งพิจารณาถึงบริบทแวดล้อมของการเลือกตั้ง ที่มาที่ไปของการเลือกตั้ง โครงสร้าง
ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การจัดวางสถาบันทางการเมือง และความชอบธรรมในยุคสมัยนั้น ๆ อย่างเป็นระบบ
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้งกับความขัดแย้งทำาให้เราอาจเจอกรณีที่ ยิ่งเลือกตั้ง
ความขัดแย้งก็ไม่ได้ลดลง และอาจจะเพิ่มมากขึ้น และทำาให้เราได้มีโอกาสพิจารณาความเป็นไปของการเลือกตั้ง
ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและหาทางปรับแก้ หรือสร้างหลักประกันไม่ให้มันเกิดขึ้น ในฐานะเงื่อนไขที่จะทำาให้