Page 60 - kpiebook63010
P. 60
59
ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่เป็นรัฐธรรมนูญที่เคารพหลักการประชาธิปไตยมาตั้งแต่แรกด้วย
กล่าวคือเปิดให้มีการสอบสวนเรื่องราวต่าง ๆ และเอาผิดในเรื่องการทุจริตการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น และแก้ไข
กันไปตามนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ก็จะไม่เกิดขึ้น
กรณีที่สอง การปฏิรูประบบเลือกตั้ง กรณีนี้มักจะเกิดขึ้นในกรณีที่ประชาธิปไตยตั้งมั่น แต่ฝ่ายที่
ไม่พอใจกับการเลือกตั้งที่ทุจริตสามารถระดมความไม่พอใจของผู้คนให้แสดงออกมาอย่างเป็นกลุ่มก้อนได้
และตัวเร่งสำาคัญก็คือความไม่เป็นเนื้อเดียวกันของชนชั้นนำาทางอำานาจ
กรณีที่สาม การยินยอมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น กรณีนี้คือเรื่องของการที่ระบอบ
การเมืองนั้นเป็นเผด็จการ หรือไม่ได้เป็นประชาธิปไตยที่ตั้งมั่น หรือไม่เป็นประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ แต่เมื่อเกิด
แรงกดดันทางสังคมที่ไม่พอใจ และเคลือบแคลงสงสัยต่อความสุจริตขั้นสูงและสมบูรณ์แบบของการเลือกตั้ง ระบอบ
การเมืองกลับเลือกที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะความไม่พอใจต่อการเลือกตั้งนั้น
ทำาให้ประชาชนรวมตัวกันได้มากขึ้น และภาคประชาชนมีความเข้มแข็งขึ้น ตระหนักถึงสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมืองของตนเพิ่มขึ้น และสร้างแรงกดดันให้ระบอบนั้นเพิ่มหรือยินยอมให้มิติของประชาธิปไตยมีมากขึ้น
กรณีที่สี่ การเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามเกิดขึ้นในเงื่อนไขระบอบการเมืองแบบเดียวกับ
กรณีที่สาม แต่ชนชั้นนำาในระบอบการเมืองเลือกจะใช้กำาลังปราบปรามประชาชน ตั้งแต่ห้ามหรือปราบปราม
การชุมนุม แทรกแซงและกดดันสื่อ กักขังผู้เห็นต่าง และประกาศภาวะฉุกเฉิน เงื่อนไขการปราบปรามนี้
จะเกิดขึ้นได้เมื่อกองทัพอยู่ข้างเดียวกับผู้มีอำานาจ รวมทั้งศาลและสถาบันที่จัดและตรวจสอบการเลือกตั้ง
อยู่ใต้อิทธิพลของชนชั้นนำาในระบอบการเมือง รวมทั้งผู้ที่ไม่พอใจกับการเลือกตั้งรวมกันไม่ติด
กรณีที่ห้า การลุกฮือขึ้นของประชาชนและการปฏิวัติ รวมทั้งการเปลี่ยนระบอบการเมือง นี่คือกรณีที่
ชนชั้นนำาทางอำานาจในระบอบการเมืองที่ดำารงอยู่นั้นล้มเหลวทั้งการใช้ไม้อ่อนไม้แข็งในการจัดการกับความไม่พอใจ
ต่อการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งเงื่อนไขที่เป็นไปได้ไม่ใช่แค่ว่าประชาชนนั้นเป็นใหญ่ แต่เป็นเพราะว่ากองทัพนั้น
เปลี่ยนข้าง และชนชั้นนำาทางอำานาจไม่สามารถควบคุมองคาพยพของรัฐได้ รวมทั้งผู้ที่ไม่พอใจกับผลการเลือกตั้ง
รวมกระทั่งพรรคการเมืองต่าง ๆ นั้นมีเอกภาพ รวมทั้งมีแรงกดดันจากนานาชาติ เงื่อนไขเหล่านี้จะนำาไปสู่
การเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐานจากเบื้องล่าง (พัฒนาจาก พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์, 2562ข, Norris, 2014 และ
Norris, 2015)
2.1.8.6 กำรเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยควำมขัดแย้ง
การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง (contentious election) เป็นแนวคิดในการศึกษาที่พิจารณาว่า
การเลือกตั้งนั้นไม่ได้มีแต่เพียงมิติของการแข่งขัน โดยอนุมานว่าการแข่งขันนั้นมีเงื่อนไขของความเท่าเทียม
เป็นธรรม มีกฎกติกาที่แต่ละฝ่ายยอมรับได้ในระดับหนึ่ง (competition หรือมีลักษณะ competitive)