Page 54 - kpiebook63010
P. 54

53






                  จะรับผิดชอบต่อพันธสัญญาในความสัมพันธ์ได้หรือไม่ เพราะผู้ใต้อุปถัมภ์อาจจะไม่เชื่อว่าพรรคเหล่านั้นจะรักษา

                  สัญญาเอาไว้เมื่อได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งจากการสนับสนุนของตน (Stokes, 2011) อย่างไรก็ตามงานวิจัยเรื่อง
                  ระบบอุปถัมภ์ทางการเมืองในปัจจุบันยังไม่สามารถมีข้อสรุปที่ตรงกันได้ว่า คนจนอาจจะเห็นกับผลประโยชน์เฉพาะหน้า

                  มากกว่าคำาสัญญาในเรื่องของนโยบายการกระจายทรัพยากรในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงเพราะเขาไม่กล้าเสี่ยงกับอนาคต
                  แต่สิ่งที่ค้นพบในบางกรณีนั้นชี้ว่า ผู้อุปภัมภ์และพรรคอุปภัมภ์โดยเฉพาะเมื่อเข้าไปมีอำานาจรัฐแล้วอาจมีแรงจูงใจ

                  ที่จะไม่แก้ปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมอย่างเป็นระบบเพราะต้องการใช้ระบบอุปถัมภ์เป็นเงื่อนไข
                  ของการอยู่ในอำานาจในพื้นที่เหล่านั้น (เพิ่งอ้าง)


                          ในประการสุดท้ายระบบอุปถัมภ์ทางการเมืองและการซื้อเสียงอาจเป็นเรื่องที่เกิดจากการจัดวางสถาบัน

                  ทางการเมือง (institutional arrangement) บางอย่าง อาทิ กฎระเบียบ ระบบการเลือกตั้งที่กลับส่งเสริม
                  ให้เกิดการแข่งขันในพื้นที่แบบที่เน้นตัวบุคคล และต้องใช้กลไกหัวคะแนน ตัวกลาง และกลุ่มคนที่ต้องคอยจับตา

                  การกระทำาต่าง ๆ ของผู้ลงคะแนนเสียงในรายละเอียด หรือระบบพรรคการเมืองที่มีโครงสร้างหลวมและรวมอำานาจ
                  เข้าสู่ศูนย์กลางไม่ได้ ก็จะส่งผลให้เกิดการเมืองแบบระบบอุปถัมภ์ (Hicken, 2007 และ Stokes, 2011)




                          2.1.8.3 กำรเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมและกำรตรวจสอบกำรเลือกตั้ง

                          แม้ว่าการพูดถึงการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม (free and fair election) นั้นจะเป็นสิ่งที่เป็นสิ่งที่รับรู้กัน

                  โดยทั่วไป แต่คำาจำากัดความในรายละเอียดของการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมในรายละเอียดอาจจะไม่ค่อยได้
                  มีการพูดถึงมากนัก


                          องค์กร Inter-Parliamentary Union ซึ่งเป็นศูนย์กลางของรัฐสภาทั่วโลกซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1889

                  และมีสมาชิกถึง 179 ประเทศจาก 193 ประเทศทั่วโลก (และประเทศไทยก็เป็นสมาชิกในองค์กรนี้) ได้นำาเสนอ
                  ข้อตกลงที่ประเทศสมาชิกนั้นจะต้องน้อมนำาไปปฏิบัติทั้งหมดสิบประการในฐานะภาระหน้าที่ในระดับนานาชาติ

                  (international duty) เพื่อให้การเลือกตั้งนั้นเสรีและเป็นธรรม ดังนี้


                          1.    ข้อปฏิบัติทางด้านกฎหมายเลือกตั้ง และ ระบบเลือกตั้ง (election law and system) โดย
                                การเลือกระบบการเลือกตั้งนั้นจะต้องส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกซึ่งเจตจำานงของประชาชน

                                ผ่านการเลือกตั้งที่สมำ่าเสมอและมีความถูกต้องแท้จริง (periodic and genuine election)
                                โดยจัดให้มีขึ้นบนพื้นฐานของความเท่าเทียมในการลงคะแนนเสียงและเลือกตั้งด้วยบัตรเลือกตั้ง

                                ในคูหาที่ไม่มีใครรู้ว่าเลือกใคร (equal suffrage and secret ballot)

                          2.    ข้อปฏิบัติทางด้านการกำาหนดเขตพื้นที่การเลือกตั้ง (constituency delimitation) โดยจะต้อง
                                ระมัดระวังไม่ให้การแบ่งเขตนั้นทำาให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันและพรากสิทธิของประชาชน

                                บางกลุ่มออกไป

                          3.    ข้อปฏิบัติทางด้านการบริหารจัดการการเลือกตั้ง (election management) โดยจะต้อง

                                กระทำาโดยองค์กรที่มีความเป็นกลางและเป็นอิสระ (independent and impartial) เพื่อสร้าง
                                ความไว้เนื้อเชื่อใจ (trust) ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59