Page 34 - kpiebook63008
P. 34
34 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดกาญจนบุรี
(Almond & Verba, 1965, pp.22-26 ) ได้แก่ (1) แบบผสมระหว่างวัฒนธรรมการเมืองแบบปิดผสมแบบไพร่ฟ้า
(parochial-subject culture) รูปแบบนี้คนไม่ยอมรับอำานาจของหัวหน้าเผ่าหรือหมู่บ้านแล้ว แต่จงรักภักดีต่อ
ระบบการเมืองที่เปลี่ยนแปลงและมีความซับซ้อน มีรัฐบาลเป็นผู้มีอำานาจ แต่คนโดยส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่สนใจ
เข้าร่วมทางการเมืองในรูปแบบต่าง ๆ (2) วัฒนธรรมทางการเมืองแบบไพร่ฟ้าผสมแบบเข้ามีส่วนร่วม
(the subject-participant culture) รูปแบบนี้คนจะเริ่มมีปฏิกิริยาเรียกร้อง และเข้าร่วมในกิจกรรมทาง
การเมือง เห็นถึงความสำาคัญในการเข้าร่วมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ หากแต่ก็ยังคงมีคนจำานวนหนึ่ง
ไม่สนใจในการเข้าร่วม และยังยอมรับอำานาจรัฐโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ “ระบบอำานาจนิยม” ในสังคมมีผลทำาให้
คนยอมรับวัฒนธรรมทางการเมืองแบบนี้ และ (3) วัฒนธรรมการเมืองแบบปิดผสมแบบมีส่วนร่วม
(the parochial-participation culture) รูปแบบนี้คนส่วนใหญ่ยังมีความจงรักภักดีแนบแน่นต่อหัวหน้าเผ่า
หรือกลุ่มเชื้อชาติ โดยคนส่วนหนึ่งมีวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม เข้ามีบทบาทในสังคม แต่ยังคงตกอยู่
ภายใต้อิทธิพลแบบเก่า การเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองจะเป็นไปในลักษณะที่มุ่งหวังประโยชน์ส่วนตัว หรือกลุ่ม
เชื้อชาติ ไม่ยืดหยุ่นประนีประนอมในกลุ่มที่แตกต่างกัน สังคมจึงมีความขัดแย้ง ลักษณะหรือรูปแบบวัฒนธรรม
การเมืองดังกล่าวข้างต้นนี้ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในพัฒนาการสังคมการเมืองระหว่างศตวรรษที่ 19 และต่อเนื่อง
มาถึงปัจจุบัน (ถึงปี 1965-ผู้เขียน) ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลี มีลักษณะความไม่แน่นอนเชิงโครงสร้างทำาให้มี
การสลับกันไปมาระหว่างรัฐบาลอำานาจนิยมกับรัฐบาลประชาธิปไตย (authoritarian and democratic
government) ซึ่งความไม่แน่นอนเชิงโครงสร้างดังกล่าวเป็นผลจากวัฒนธรรมดังกล่าวนี้ Almond และ
Verba ได้เสนอวัฒนธรรมการเมืองแบบผสมเรียกว่า “วัฒนธรรมพลเมือง” (Civic Culture) โดยเน้นความ
กระตือรือร้นและความมีเหตุผลในการเข้าร่วม (rationality-activist) แต่ขณะเดียวกันก็มีลักษณะการผสมผสาน
วัฒนธรรมการเมืองแบบปิดและแบบไพร่ฟ้าอีกด้วย สิ่งที่สำาคัญเฉพาะคือ วัฒนธรรมการเมืองแบบพลเมืองนั้นให้
ความสำาคัญกับการมีส่วนร่วมมากกว่า มีลักษณะสำาคัญ 2 ประการ (สิทธิพันธ์ พุทธหุน, 2551, หน้า 130) ได้แก่
(1) ความสามารถในการเป็นผู้อยู่ใต้การปกครองที่ดี (subject competence) และ (2) ความสามารถในการ
เป็นประชาชน (พลเมือง) ที่ดี คือ การเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเป็นเหตุเป็นผล
ในสังคมการเมืองยุคปัจจุบันโดยเฉพาะสังคมกำาลังพัฒนานั้น “ระบบการเมืองแบบพลเมือง”
(Civic Polities) นั้นจะมีอยู่ทั่วไปเนื่องจากเข้าร่วมทางการเมือง หากแต่ขึ้นอยู่กับระดับการมีส่วนร่วม
ทางการเมือง (สิทธิพันธ์ พุทธหุน, 2551, หน้า 189-193) ได้แก่ (1) สังคม Organic มีลักษณะการมีส่วนร่วม
ทางการเมืองระดับตำ่า หรือสังคมระยะแรก (2) สังคม Whig ลักษณะการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลาง และ
(3) สังคม Participant มีลักษณะการมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง นอกจากนี้แล้วในการศึกษาบทบาททางการเมือง
ของประชาชนหรือความก้าวหน้าทางการเมืองของสถาบันทางการเมืองก็คือ การนำาประเด็นว่าด้วยวัฒนธรรม
การเมือง ความทันสมัย พัฒนาการทางการเมืองและการมีส่วนร่วมทางการเมืองมาอธิบายระดับ “ความเป็น
สถาบันทางการเมือง” (political institutionalization) ว่าในแต่ละสังคมการเมืองต่าง ๆ ที่มีอยู่นั้นเป็นอย่างไร
สิ่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ สังคและการเมืองอย่างไรบ้าง ความแตกต่างในมิติว่าด้วยความเป็นสถาบันทางการเมือง
และความทันสมัยทางการเมือง มีประเด็นที่สามารถนำามาพิจารณาที่สำาคัญ ประกอบด้วย