Page 99 - kpiebook62008
P. 99
๖๘
คะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรให้พระราชกำหนดนั้นตก
ไป แต่ทั้งนี้ไม่กระทบต่อกิจการที่ได้เป็นไปในระหว่างที่ใช้พระราชกำหนดนั้น
หากพระราชกำหนดตามวรรคหนึ่งมีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดและ
พระราชกำหนดนั้นต้องตกไปตามวรรคสาม ให้บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีอยู่ก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิก มี
ผลใช้บังคับต่อไปนับแต่วันที่การไม่อนุมัติพระราชกำหนดนั้นมีผล
ถ้าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอนุมัติพระราชกำหนดนั้น หรือถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติและสภาผู้แทนราษฎร
ยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ให้
พระราชกำหนดนั้นมีผลใช้บังคับเป็นพระราชบัญญัติต่อไป
การอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกำหนด ให้นายกรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีไม่อนุมัติ
ให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
การพิจารณาพระราชกำหนดของสภาผู้แทนราษฎรและของวุฒิสภา และการยืนยันการอนุมัติพระราช
กำหนด จะต้องกระทำในโอกาสแรกที่มีการประชุมสภานั้น ๆ”
จากบทบัญญัติข้างต้น รัฐธรรมนูญได้กำหนดเงื่อนไขในการตราพระราชกำหนดไว้เฉพาะการตราขึ้นเพื่อ
ประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ทั้งยังต้องเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้
เมื่อฝ่ายบริหารตราพระราชกำหนดแล้วยังต้องนำพระราชกำหนดดังกล่าวให้ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาตามมาตรา
๑๗๒ วรรคสาม สี่ ห้า หก และเจ็ด เมื่อพิจารณาเงื่อนไขการตราพระราชกำหนดตามมาตรา ๑๗๒ แห่งรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ แล้วจะพบว่า การตราพระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรอาจใช้อำนาจ
ตามมาตรานี้ก็ได้เนื่องจากประเด็นเกี่ยวกับภาษีอากรมักมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของ
ประเทศดังมีตัวอย่างให้เห็นจากกรณีการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสามีภริยาตามพระราชกำหนดแก้ไข
เพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยที่เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘๔ แห่งรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจการตราพระราชกำหนดกรณีทั่วไปเช่นเดียวกับมาตรา
๑๗๒ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ยังมิได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดเกี่ยวกับภาษีอากรโดยใช้อำนาจ
ตามบทบัญญัตินี้แต่อย่างใด